บุรีรัมย์ - รมว.คมนาคมลงพื้นที่บุรีรัมย์ตรวจติดตามงานโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน (ถนนดีทั่วไทย) ซึ่งเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจรวมกว่า 200 ล้านบาท ขณะจังหวัดขออัปเกรดท่าอากาศยานสตึกให้เป็นสนามบินนานาชาติ เพื่อรองรับเป็นเมืองแห่งกีฬามอเตอร์สปอร์ตและฟุตบอล
วันนี้ (1 พ.ย.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมสำนักงานแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน (ถนนดีทั่วไทย) งบประมาณปี 2558 ซึ่งเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมี นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และส่วนราชการสังกัดกระทรวงคมนาคมในจังหวัดบุรีรัมย์ ให้การต้อนรับ พร้อมฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ได้รับการอนุมัติงบประมาณจากกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ตามโครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน (โครงการถนนดีทั่วไทย) งบประมาณปี 2558 ซึ่งเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 15 โครงการ เงินงบประมาณ 95,832,348 บาท ดำเนินการเสร็จไปแล้ว 10 โครงการ เบิกจ่ายเงิน 70,049,500 บาท คิดเป็น 73.09 เปอร์เซ็นต์
ส่วนในปีงบประมาณ 2559 ได้รับอนุมัติมา 14 โครงการ เงินงบประมาณ 129,926,000 บาท ดำเนินการเสร็จไปแล้ว 4 โครงการ เบิกจ่ายเงิน 63,759,818 บาท คิดเป็น 49.07 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ยังได้เสนอของบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างถนนจากสองเลนเป็นสี่เลน เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 218 สายบุรีรัมย์-นางรอง ที่ยังเหลืออีกประมาณ11 กิโลเมตร และเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219 สายบุรีรัมย์-สตึก ที่ยังเหลืออีก 8 กิโลเมตรให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ตลอดทั้งสาย เพื่อการคมนาคมจะได้สะดวกมากขึ้น
พร้อมทั้งทางท่าอากาศยานบุรีรัมย์ยังได้ขอให้จัดสรรงบประมาณเพื่อซ่อมแซมแนวรั้วให้มีความสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขึ้นลงของอากาศยาน และขอขยายลานจอดเครื่องบินให้มีความยาวเพิ่มขึ้นอีก 60 เมตร จากเดิม 120 เมตร เป็น 180 เมตร และเพิ่มทางขับขนาด 23 คูณ 240 เมตร อีก 1 เส้น เพื่อเชื่อมระหว่างรันเวย์ และลานจอดเครื่องบิน
เนื่องจากในแต่ละปีท่าอากาศยานบุรีรัมย์มีเที่ยวบินพาณิชย์ เที่ยวบินในภารกิจฝึกบิน เที่ยวบินของส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ เที่ยวบินในภารกิจทำฝนหลวง และเที่ยวบินในภารกิจรับเสด็จ ทำการบินขึ้นลงเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาลานจอดเครื่องบิน ซึ่งในปัจจุบันมีขนาดกว้าง 80 คูณ 120 เมตร คับแคบ ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้รับเรื่องทั้งหมดไว้เสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะได้ลงพื้นที่ดูโครงการซ่อมสร้างผิวทางแอสฟัลติกคอนกรีต สาย บร.3021 แยกทางหลวงหมายเลข 218 ข บ.กุง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ช่วง กม.1+325 - กม.1+800 ระยะทาง 0.475 กิโลเมตร และปรับปรุงพื้นทาง ระยะทาง 2.070 กิโลเมตร รวมระยะทาง 2.545 กิโลเมตร เงินประมาณ 9,300,000 บาท ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อกลางเดือน ต.ค. 58 ที่ผ่านมา
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานในกำกับของกระทรวงคมนาคมที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณทั้งงบปกติ และกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการทำงานส่วนใหญ่ก็เสร็จสิ้นเกือบหมดแล้ว และบางโครงการมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
ส่วนในเรื่องของโครงข่ายคมนาคมที่บุรีรัมย์นั้น การพัฒนาเส้นทางหมายเลข 24 และเส้นทางเลียบชายแดน ในช่วงเทศกาลจะมีประชาชนใช้เส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเส้นทางหมายเลข 226 ซึ่งมีการพัฒนาเป็นสี่ช่องทางจราจร นอกจากนี้ยังจะมีการเติมเต็มเส้นทางให้กับบุรีรัมย์อีก 3 ส่วน คือ เส้นทางหมายเลข 219 จากบุรีรัมย์ไปสนามบินสตึก ซึ่งยังขาดช่วงที่จะพัฒนาเป็นสี่ช่องจราจรอยู่ประมาณ 8 กิโลเมตร หากทำแล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางจากบุรีรัมย์ไปสนามบินสตึกเกิดความสะดวกแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งเส้นทางเชื่อมระหว่างเมืองบุรีรัมย์กับเส้นทางหมายเลข 24 ไปอำเภอนางรอง ยังขาดสี่ช่องจราจรอีก 11 กิโลเมตร ซึ่งปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นทุกวัน และด้านตะวันตกของเมืองบุรีรัมย์ เส้นทางหมายเลข 226 ยังขาดสี่ช่องจราจรอีก 10 กิโลเมตร ซึ่งทำครบทั้งหมดจะทำให้บุรีรัมย์เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่จะลงไปสู่ท่าเรือแหลมฉบังที่สั้นอีกเส้นหนึ่ง ซึ่งจะสามารถเป็นศูนย์กลางทางด้านลอจิสติกส์ของอีสานใต้ได้
แต่ที่น่าห่วงคือ ตัวเมืองบุรีรัมย์เติบโตค่อนข้างมาก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทุกสัปดาห์ มีการแข่งขันในเรื่องของกีฬามอเตอร์สปอร์ตและกีฬาฟุตบอล ซึ่งคิดว่าในอนาคตทางหลวงต้องร่วมกับจังหวัดในการวางแผนทางเลี่ยงเมืองหรือวงแหวนเกือบทุกเมืองในภาคอีสานมีปัญหาในเรื่องของการจราจร ซึ่งบุรีรัมย์อยู่ในระยะเริ่มต้นอาจจะได้เปรียบตรงที่ว่าสามารถวางแผนในเรื่องการทำถนนรอบเมืองเป็นวงแหวนเพื่อให้รถที่ไม่ประสงค์จะเข้าเมืองก็สามารถเดินทางออกวงแหวนนั้นได้อย่างสะดวก
ส่วนท่าอากาศยานสตึก ขณะนี้ระยะทางวิ่งรันเวย์มีประมาณ 2,100 เมตร บวกกับที่รีเซิร์ฟไว้อีก 400 เมตร จะทำให้รองรับเครื่องบินได้มากขึ้น ซึ่งทางจังหวัดได้ขออัปเกรดท่าอากาศยานสตึกให้เป็นสนามบินนานาชาติเพื่อรองรับในเรื่องของกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมไดรับเรื่องไว้แล้ว เตรียมหารือกับทางกระทรวงการคลัง เพราะการเป็นสนามบินนานาชาตินั้นจะต้องมีอีกสองส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง คือ ตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร รวมทั้งการตรวจสินค้าพืชต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันต่อไป
ในอนาคตหากทางจังหวัดร่วมกับภาคเอกชนสามารถโปรโมตในเรื่องของการตลาดเมืองแห่งกีฬาตรงนี้ อาจทำให้สนามบินของเรามีการใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น โดยคิดว่าจะมีการพิจารณาให้การสนับสนุนได้ภายในปี 2560
