ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ทูตกัมพูชา” ตรวจเยี่ยมแรงงานเขมรใ นรง.แปรรูปเนื้อไก่ CPF โคราช เพื่อดูแลความเป็นอยู่แรงงาน พร้อมชมกระบวนการผลิตไก่ระดับโลก เผยพอใจดูแลแรงงานเขมรดีเทียบเท่าคนไทย หนุนจัดระเบียบแรงงานของรัฐบาลไทยชี้ทำให้ได้รับความคุ้มครอง เผย CPF จ้างแรงงานต่างด้าว 5,050 คน เป็นกัมพูชา 4,300 คน ปฏิบัติงานที่ รง.โคราช 2,280 คน
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ (CPF) ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองประธานคณะผู้บริหารสายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจรซีพีเอฟ และนายสุชาติ สิทธิชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสซีพีเอฟ พร้อมด้วยผู้บริหารซีพีเอฟ นครราชสีมา ให้การต้อนรับ นางอีท โซเฟีย (H.E.Mrs.Eat Sophea) เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมชมการทำงานของแรงงานชาวกัมพูชา เพื่อรับฟังแนวนโยบายของบริษัทฯ เรื่องแรงงานต่างด้าว และลงพื้นที่ดูสภาพความเป็นอยู่ สวัสดิการ และมาตรฐานการปฏิบัติต่อแรงงานชาวกัมพูชา
โดยเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ได้ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีร่วมกับแรงงานชาวกัมพูชา ที่วัดโคกเพชร อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมเยี่ยมชมหอพักแรงงานกัมพูชาที่ทางโรงงานจัดสร้างให้ จำนวน 6 อาคาร มีแรงงานพักอาศัยอยู่รวม 1,400 คน
นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองประธานคณะผู้บริหารสายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจร CPF กล่าวว่า บริษัทตระหนักดีถึงความสำคัญของแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศกัมพูชา และประเทศพม่า ในการช่วยสนับสนุนการผลิต และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย บริษัทฯจึงได้กำหนดเป็นนโยบายการจ้างแรงงานต่างด้าวด้วยความเท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ได้มาตรฐานสากลตามหลักสิทธิมนุษยชน และต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์
สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาที่ได้รับเลือกจะได้รับการปฏิบัติอย่างดี ตั้งแต่ตัวแทนด้านแรงงานกัมพูชา ส่งมอบให้แก่บริษัทฯ ที่ชายแดนด่านคลองลึก ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งอาหาร และพาหนะ รวมถึงการทำใบอนุญาตทำงาน ตรวจร่างกาย ฯลฯ ซีพีเอฟ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามนโยบายจ้างตรงของบริษัทฯ
หลังจากนั้น แรงงานชาวกัมพูชาจะได้รับความรู้ และการฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้องต่อการทำงานเป็นเวลา 5 วัน ก่อนเข้าทำงานจริงในสายการผลิต รวมถึงการจัดหอพัก และรบรับ-ส่งฟรี ระหว่างที่พักกับโรงงานให้เพื่ออำนวยความสะดวก
นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิต่างๆ ตามกำหมายแรงงานไทยเท่าเทียมกับแรงงานไทย เช่น ค่าต่างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ค่าล่วงเวลา 1.5 เท่าในวันทำงานปกติ และ 2 เท่าในวันหยุด (วันหยุดนักขัตฤกษ์ 16 วัน/ปี) ลาป่วย 30 วัน ลากิจ 7 วัน และลาพักผ่อนไม่น้อยกว่า 6 วันต่อปี มีประกันสังคม และค่ารักษาพยาบาล
และเรายังคำนึงถึงความเป็นอยู่ของแรงงานในเรื่องภาษาด้วย โดยจัดตั้งศูนย์ประสานงานกัมพูชา-ไทย ซึ่งมีล่ามภาษากัมพูชาประจำศูนย์ เพื่อช่วยการสื่อสารทั้งในโรงงาน และกรณีฉุกเฉิน รวมถึงแรงงานที่ทำงานกับเราสามารถส่งเงินกลับไปให้ญาติที่บ้านอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเดือนละประมาณ 8,000 บาท และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ปัจจุบัน CPF มีการจ้างแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น 5,050 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานกัมพูชา 4,300คน โดยปฏิบัติงานที่โรงงานโคราช 2,280 คน โรงงานแปรรูปสระบุรี 1,100 คน โรงงานแปรรูปสุกร 600 คน โรงงานอาหาราสำเร็จรูป 200 คน และประมาณ 120 คน ปฏิบัติงานที่โรงงานแปรรูปสัตว์น้ำแกลง จ.ระยอง
ส่วนแรงงานพม่า มีจำนวน 750 คน แบ่งเป็นอยู่ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่มีนบุรี 320 คน โรงงานบางนาแปรรูปเนื้อไก่บางนา 80 คน โรงงานแปรรูปสุกร 30 คน และโรงงานแปรรูปกุ้ง 320 คน โดยการทำงานแต่ละแห่งนั้นไม่ใช้แรงงานต่างสัญชาติทำงานในโรงงานเดียวกันเพื่อป้องกันปัญหาทะเลาะวิวาท และอื่นๆ ที่จะตามมา ซึ่งแรงงานกัมพูชาถือเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ อดทน ไม่บ่น
ด้าน H.E.Mrs.Eat Sophea เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กล่าวว่า การมาเยี่ยมแรงงาชาวกัมพูชาครั้งนี้รู้สึกพอใจต่อสภาพความเป็นอยู่ของแรงงานที่ทางโรงงานจัดสรรให้อย่างดี ได้เห็นแรงงานทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชาทำงานร่วมกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ส่วนห้องพักของแรงงานกัมพูชาจากการลงพื้นที่มีความพึงพอใจอย่างมาก สะอาด มีอนามัยที่ดี จากการสอบถามแรงงานทุกคนต่างบอกว่าพึงพอใจ ทุกคนมีสุขภาพพลานามัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส
นอกจากนี้ การติดต่อระหว่างแรงงานกัมพูชากับครอบครัวมีการติดต่อได้หลายทางทั้งทางโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต เนื่องจากระบบสื่อสารเมืองไทย และกัมพูชาตอนนี้ทันสมัยมาก ส่วนพาสปอร์ตจากการสอบถามทราบว่า แรงงานกัมพูชาถือไว้เองทางโรงงานไม่ได้ยึดไว้แต่อย่างใด และการเดินทางไปไหนมาไหนมีความสะดวกสบาย
“เรามีความพอใจอย่างยิ่งที่แรงงานกัมพูชาได้มาทำงานในสถานที่ดี สวัสดิการดี และมีรายได้ดีส่งไปให้พ่อแม่ และครอบครัว”
ส่วนมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวของรัฐบาลไทยนั้น H.E.Mrs.Eat Sophea กล่าวว่า การจัดระเบียบเกี่ยวกับการลงทะเบียนแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาผิดกฎหมายให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทางรัฐบาลกัมพูชา หรือสถานทูตกัมพูชาก็พึงพอใจอย่างยิ่ง เพราะทำให้แรงงานกัมพูชามีรายได้ หรือการรับสวัสดิการต่างๆ เท่ากับแรงงานไทย ซึ่งเมื่อแรงงานกัมพูชาได้ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เขาสามารถมีสิทธิออกเสียง หรือการแจ้งบอกกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่ไทยให้ดำเนินการต่อผู้ที่ทำร้ายแรงงานได้