นครพนม - อลังการ! ไหลเรือไฟกลางลำแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวไทย-ลาวหลายหมื่นชีวิตแน่นริมฝั่งโขง เรือไฟอำเภอศรีสงคราม และอำเภอท่าอุเทน คว้าชนะเลิศ ขณะเดียวกัน ได้เกิดเหตุสลดเศษพลุบึ้มแตกใส่หน้าสาววัย 30 ยังแจ๋วเลือดอาบ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนม ว่า บรรยากาศคืนไหลเรือไฟที่บริเวณลำน้ำโขงนครพนม เมื่อคืนวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวไทย-ลาว และชาวต่างชาติทั่วสารทิศหลายหมื่นคนเดินทางมาร่วมชมเรือไฟ โดยนำเสื่อมาปูจับจองอัฒจันทร์สถานที่นั่งชมเรือไฟตั้งแต่บ่าย 3-4 โมง จนทำให้ริมโขงแน่นขนัด
ขณะที่เรือสำราญ และร้านอาหารริมโขงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มีระดับจองโต๊ะกินอาหารซดเครื่องดื่มชมเรือไฟกันอย่างเต็มอิ่ม หลังจากที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้เป็นประธานเปิดงานเรือไฟแต่ล่ะอำเภอก็ถูกจุดไฟพระราชทานลอยในกลางลำน้ำโขงโชว์ความงามต่อสายตานักท่องเที่ยว โดยไม่มีคำว่าผิดหวัง ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวเลียบลำน้ำโขงตั้งแต่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด จนถึงด่านป่าไม้ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นอกจากจะนั่งชมแล้ว ยังได้ถ่ายรูปภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวลงเฟซบุ๊กสนั่นหวั่นไหวตามแฟชั่นกันด้วย
โดยเรือไฟลำแรกเคลื่อนออกจากริมตลิ่งคือ เรือไฟ อ.นาหว้า เป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ มีองค์พระธาตุพนมปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐาน มีรูปคนนั่งปั่นจักรยานโบกมือเคลื่อนไหว มีตัวหนังสือภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ระบุ “Bai for mom” ปั่นเพื่อแม่ มีตราสัญลักษณ์อาเซียนท้ายเรือแต่ที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว
เรือไฟลำที่ 2 ซึ่งปล่อยออกมามีขนาดใหญ่โตมหึมา เป็นเรือไฟของ อ.ศรีสงคราม ซึ่งเป็นเรือไฟที่จัดสร้างยาวที่สุดในโลก ยาว 117 เมตร สูง 37 เมตร เท่าตึก 10 ชั้น มีดวงตะเกียงประดับประดามากถึง 32,000 ดวง เป็นรูปทรงเรือสุพรรณหงส์ มีพญานาคซ้อน มีองค์พระธาตุพนมประดิษฐาน และสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 และสัญลักษณ์ปลาตะเพียนใหญ่เป็นฐาน บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ลุ่มแม่น้ำสงคราม
ตามมาด้วยเรือไฟลำที่ 3 ของ อ.โพนสวรรค์ แชมป์เก่า 7 สมัยซ้อน ก่อนจะมาเสียแชมป์ให้ อ.นาทม ถึง 2 สมัยซ้อน และมีเรือไฟอีก 5 อำเภอลอยตามกันติดๆ รวมทั้งเรือของมหาวิทยาลัยนครพนม และเรือ อบจ.นครพนม
ลำสุดท้าย โดยระหว่างที่เรือแล่นผ่านนักท่องเที่ยวต่างชูกล้อง และโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพและคลิปกันอย่างล้นหลามซึ่งเป็นที่งดงามตระการตา เพราะเรือไฟแต่ล่ะลำนอกจากจะโชว์ตะเกียงไฟแล้ว ยังยิงพลุโชว์แตกบึ้มกลางอากาศสนั่นแม่น้ำโขง ขณะผู้ชมบนฝั่งก็ส่งเสียงกรี๊ดปรบมือด้วยความประทับใจ
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุระทึกขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุมีพลุจากเรือไฟแตกใส่ประชาชนบริเวณริมโขงหน้า สภ.เมืองนครพนม พบนายสายันต์ อินทร์จันทร์ วัย 39 ปี จูงภรรยา น.ส.นงค์เยาว์ สายทอง วัย 30 ปี ชาวบ้านนามะเขือ อ.ปลาปาก โร่เข้าโรงพักหลังพลุแตกใส่หน้าได้รับบาดเจ็บเหนือคิ้วซ้ายแตกยาว 5 ซม. เลือดไหลโชก ร.ต.ท.(หญิง) จุฬารัตน์ อาจภิรมณ์ พงส.สภ.เมืองนครพนม ที่ยืนอยู่หน้าโรงพักได้แจ้งกู้ภัยนครพนมเร่งมาปฐมพยาบาล
นายสายันต์ ระบุว่า ขณะเกิดเหตุตนกับภรรยายืนชมเรือไฟใกล้เต็นท์ นรข.พบเรือไฟของ อ.นาทม แล่นใกล้ตลิ่งก่อนจุดพลุเสียงดังสนั่นกว่า 10 นัด ใกล้ผู้คนมากเกินไป ก่อนแตกใส่ทำให้บาดเจ็บดังกล่าว
ด้าน นายสมชาย วิทย์ดำรง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การจัดงานประเพณีไหลเรือไฟในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง นักท่องเที่ยวประทับใจในความสวยงาม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นการพัฒนาจุดชมวิวตลอดแนวริวโขงทำให้การชมเรือไฟในปีนี้สะดวกสบายขึ้นหลายเท่าซึ่งนักท่องเที่ยวก็จะไปบอกต่อ
แต่เดิมนั้นคนต้องเบียดแย่งที่ชมเรือไฟ ซึ่งตอนนี้ได้พัฒนาไปมากสำหรับพื้นที่ริมโขงซึ่งเป็นจุดขายท่องเที่ยวของนครพนมด้วย และเม็ดเงินท่องเที่ยวก็จะสะพัดกับธุรกิจหลายกลุ่มด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับเรือไฟที่ชนะเลิศอันดับประเภทสวยงามอันดับ 1 คือ อ.ท่าอุเทน อันดับ 2 คือ อ.โพนสวรรค์ อันดับ 3 อ.เรณูนครพนม ส่วนชนะเลิศประเภทความคิดคือ อ.ศรีสงคราม อันดับ 2 อ.นาทม อันดับ 3 อ.เมืองนครพนม