สุรินทร์- พบชีวิต 3 พี่น้องตายายเมืองช้างสุดแสนรันทด ตาบอดฝ้าฟาง โรคชรารุมเร้า ไร้ลูกหลานดูแล อาศัยในบ้านเก่าผุพังไม่สามารถบังลมคุ้มแดดคุ้มฝนได้ ต้องอดมื้อกินมื้ออย่างน่าเวทนา วอนผู้ใจช่วยเหลือ และสร้างบ้านหลังเล็กบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์รายงานว่า พบชีวิตความเป็นอยู่ที่สุดแสนรันทดของ 3 พี่น้องตายาย อาศัยอยู่ภายในบ้านเลขที่ 60 ม.6 บ.ปะ ต.ตั้งใจ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง หลังคามุงสังกะสี มีรูรั่วทั่วหลังคา สภาพบ้านเก่าแก่ และผุพังมากแล้ว ไม่สามารถบังลมคุ้มแดดคุ้มฝนได้ จึงทำให้ทั้ง 3 พี่น้องตายาย ประกอบด้วย คุณตาสปัน รุ่งเรือง อายุ 83 ปี พี่ชายคนโต ซึ่งตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง คุณยายปิ รุ่งเรือง อายุ 79 ปี น้องสาวคนรอง และคุณยายสมจิตร รุ่งเรือง อายุ 75 ปี น้องสาวคนที่ 3 ต้องเข้ามาหลบอาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านของ นายแจง รุ่งเรือง อายุ 63 ปี น้องชายอีกคนที่ปลูกอยู่ติดกัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายแจง เคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดูแลหุงข้าว หาอาหาร และรับจ้างหาเงินมาซื้ออาหารให้แก่พี่ชายและพี่สาวทั้ง 3 คนได้ประทังชีวิต แต่ปัจจุบัน นายแจง ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว ด้วยโรคประจำตัวเมื่อกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ทิ้งให้ 3 พี่น้องตายายต้องใช้ชีวิตในวัยชรา ด้วยโรคชราที่รุมเร้าไม่มีเรี่ยวแรงรับจ้างทำงานใดๆ ได้ และสายตาแต่ละคนเริ่มฝ้าฟางตามวัยที่ร่วงโรย
โดยเฉพาะคุณตาสปัน รุ่งเรือง ซึ่งไม่มีภรรยา ดวงตาทั้ง 2 ข้างตาบอดสนิทด้วยโรคประจำตัวมากว่า 20 ปีแล้ว แถมขาทั้ง 2 ข้างเริ่มบวม และมีแผลปริแตก เลือดซึมด้วยความเจ็บปวด
ส่วน คุณยายปิ รุ่งเรือง ป่วยเป็นตาฝ้าฟาง สามีได้เสียชีวิตไปนานแล้ว และมีลูกชาย 1 คน อายุประมาณ 40 ปี แต่สติไม่สมประกอบไม่เคยกลับมาบ้านนานหลายปีแล้ว ขณะที่คุณยายสมจิตร รุ่งเรือง ป่วยด้วยอาการกระดูกหลังร้าวเดินเหินลำบาก สามีเสียชีวิตไปนานแล้วเช่นกัน
ทั้งหมดพูดภาษาไทยได้ไม่ชัดเจน เพราะส่วนใหญ่ใช้ภาษาท้องถิ่นพื้นบ้านเขมรในการสื่อสาร และทำได้เพียงแต่ต่อรอความหวังจากผู้ใจบุญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลอาการเจ็บป่วย และช่วยปลูกที่อยู่อาศัยหลังเล็กๆ สักหลังที่พอคุ้มแดดคุ้มฝนให้
ถึงแม้ทั้ง 3 คนจะมีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และคนพิการเดือนละ 700-800 บาทต่อคนต่อเดือน แต่ไม่เพียงพอใช้ประทังชีวิต ต้องอดมื้อกินมื้อตามมีตามเกิด บางวันเก็บหาผักตามริมรั้วราวป่ามาต้มจิ้มน้ำพริกกินกับข้าว เพื่อให้มีชีวิตรอดไปวันๆ เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ได้มีเพื่อนบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึง อบต.ตั้งใจ ที่คอยแวะเวียนนำข้าวสารอาหารแห้งมาช่วยเหลือบ้าง แต่ก็ไม่สามารถดูแลได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเงินมาช่วยเหลือ 3 พี่น้องตายายครอบครัวนี้
นายวีระ หมายกล้า ผู้ใหญ่บ้านปะ กล่าวว่า เมื่อน้องชายของ 3 พี่น้องตายาย ที่คอยดูแลเสียชีวิตไปแล้ว ก็พอจะมีคุณยายปิ ที่เป็นคอยรับภาระดูแล และเดินไปซื้อกับข้าวอะไรได้บาง ถึงแม้ตาฝ้าฟาง ซึ่งทั้งหมดได้เบี้ยผู้สูงอายุ และคนพิการเดือนละ 700-800 บาทต่อคนในการประทังชีวิต ซึ่งใช้ชีวิตอย่างลำบากเพราะชรามากแล้ว โดยเฉพาะคุณตาสปัน ที่ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ร่างกายเริ่มย่ำแย่ลงตามอายุ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ใจบุญมาช่วยเหลือดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยให้แก่ 3 พี่น้องตายายด้วย
น.ส.สุภาวดี มีแก้ว คณะกรรมการหมู่บ้านปะ กล่าวว่า ทั้งหมดมีพี่น้อง 7 คน เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน อีกคนมีครอบครัวอยู่คนละตำบล จึงเหลือ 3 พี่น้องตายยาย ต้องใช้ชีวิตตามลำพัง เดินเหินลำบาก ทั้งตาฝ้าฟาง และคุณตาสปันก็ตาบอด ขาบวม ปริมีเลือดซึมออกมา ยิ่งหน้าหนาวด้วยจะปวด ตอนนี้มีคนทราบข่าวทางสังคมออนไลน์ร่วมบริจาคเงินมาบ้างแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างบ้านให้ได้
ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน ได้หารือกันแล้วหากมีเงินที่มีผู้ใจบุญบริจาคมาเพียงพอก็จะสร้างบ้านพักเล็กๆ ให้แทนหลังเก่า เพราะบ้านหลังเก่าไม่สามารถพักได้เพราะเวลาฝนตกจะรั่วและฝนสาดเปียกปอนไปหมด แถมใต้ถุนสูงขึ้นลงลำบากอีกด้วย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะบ้านอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมากแล้ว
ทั้งนี้ ผู้ใจบุญสามารถร่วมกันบริจาคเงินมาได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาจอมพระ ชื่อบัญชี นางปิ รุ่งเรือง และนายวีระ หมายกล้า (ผู้ใหญ่บ้าน) และ น.ส.สุภาวดี มีแก้ว (คณะกรรมการหมู่บ้าน) เลขที่บัญชี 320-0-46358-9 (เงื่อนไขการเบิกเงินในบัญชี ต้องมี 2 ใน 3 คน และทุกครั้งต้องมีนางปี เป็นชื่อหลัก) หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ น.ส.สุภาวดี มีแก้ว คณะกรรมการหมู่บ้านปะ หมายเลขโทรศัพท์ 08-8346-9843 และนายวีระ หมายกล้า ผู้ใหญ่บ้านปะ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-8119-5515
