สุรินทร์ - หลังเป็นข่าวธารน้ำใจจากพลังแห่งเมตตาสงสารทั้งในและต่างประเทศหลั่งไหลช่วยเหลือ “สามพี่น้องตายาย” เมืองช้างชีวิตสุดรันทด โอนเงินให้รวมเฉียด 8 แสนบาท แบ่งสร้างบ้าน 2.6 แสนบาท เหลืออีก 4.7 แสนบาทฝากธนาคารไว้ใช้จ่ายรายเดือน ขณะรองผู้ว่าฯ สุรินทร์รุดมอบบ้านหลังใหม่ ท่ามกลางความดีใจของสามตายายและเพื่อนบ้าน
วันนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังนำเสนอข่าวชีวิตสุดแสนรันทดของ “สามพี่น้องตายาย” อาศัยอยู่ภายในบ้านเลขที่ 60 ม.6 บ.ปะ ต.ตั้งใจ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ สภาพบ้านเก่าผุพังหลังคารั่ว ไม่สามารถบังแดดกันฝนได้ ทำให้ตายายสามพี่น้อง คือ คุณตาสปัน รุ่งเรือง อายุ 83 ปี พี่ชายคนโต ตาบอดสนิททั้งสองข้าง, คุณยายปิ รุ่งเรือง อายุ 79 ปี น้องสาวคนรอง และ คุณยายสมจิตร รุ่งเรือง อายุ 75 ปี น้องสาวคนที่สาม ต้องมาหลบอาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านของน้องชายอีกคนที่ปลูกอยู่ติดกัน คือ นายแจง รุ่งเรือง อายุ 63 ปี ซึ่งเคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดูแลหุงหาอาหาร และรับจ้างหาเงินมาซื้ออาหารให้พี่ชายและพี่สาวทั้ง 3 คนได้ประทังชีวิตที่ผ่านมา
แต่นายแจงได้เสียชีวิตลงไปแล้วด้วยโรคประจำตัว ทิ้งให้ 3 พี่น้องตายายต้องใช้ชีวิตในวัยชราด้วยหลายโรครุมเร้าไม่มีเรี่ยวแรงรับจ้างทำงานใดๆ ได้ และสายตาแต่ละคนเริ่มฝ้าฟางตามวัยที่ร่วงโรย โดยเฉพาะคุณตาสปัน รุ่งเรือง ซึ่งไม่มีภรรยา ดวงตาทั้งสองข้างบอดสนิทด้วยโรคประจำตัวมากว่า 20 ปีแล้ว แถมขาทั้งสองข้างเริ่มบวมและมีแผลปริแตก เลือดซึมด้วยความเจ็บปวด
ส่วน คุณยายปิ รุ่งเรือง ป่วยเป็นตาฝ้าฟาง สามีได้เสียชีวิตไปนานแล้ว และมีลูกชาย 1 คน อายุประมาณ 40 ปี สติไม่สมประกอบไม่เคยกลับมาบ้านนานหลายปีแล้ว
ขณะที่ คุณยายสมจิตร รุ่งเรือง ป่วยด้วยอาการกระดูกหลังร้าวเดินเหินลำบาก สามีเสียชีวิตไปนานแล้วเช่นกัน ทั้ง 3 คนมีเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการเดือนละ 700-800 บาทต่อคนต่อเดือนที่ใช้ประทังชีวิต บางวันต้องกินตามมีตามเกิด เก็บหาผักมาต้มจิ้มน้ำพริกกินกับข้าวเพื่อให้ชีวิตรอดไปวันๆ เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดพบว่ามีประชาชนผู้ใจบุญจากทั่วประเทศต่างพากันโอนเงินบริจาคช่วยเหลือ สามพี่น้องตายายครอบครัวนี้อย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มียอดเงินในบัญชีของ ธนาคารกรุงไทย สาขาจอมพระ ชื่อบัญชี นางปิ รุ่งเรือง และ นายวีระ หมายกล้า (ผู้ใหญ่บ้าน) และนางสาวสุภาวดี มีแก้ว (คณะกรรมการหมู่บ้าน) เลขที่บัญชี 320-0-46358-9 รวมยอดเงินจำนวนกว่า 7.8 แสนบาทแล้ว ก่อนที่ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจะได้ประชุมหารือกันเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้สามพี่น้องตายาย
โดยมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคปูนซีเมนต์ หลังคา กระเบื้อง และอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริจาคปูนซีเมนต์จำนวน 5 ตัน จากนั้นได้ใช้เงินที่ประชาชนผู้ใจบุญบริจาคมาร่วมสร้างบ้านรวมทั้งสิ้น 2.6 แสนบาท และยังคงมีเงินเหลือในบัญชีอีก 4.7 แสนบาท ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้านต่างๆ จะได้ดูแลเงินส่วนนี้ โดยร่วมกันเบิกออกมาให้สามพี่น้องตายายใช้เดือนละ 3 พันบาท จนหมดงบประมาณที่ประชาชนบริจาคมา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 ก.พ. 59) นายวินัย ตรงจิตรพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางมาเป็นประธานมอบบ้านผู้สูงอายุ 3 วัยโครงการปรับที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มสมรรถนะคนพิการและผู้สูงอายุให้แก่สามพี่น้องตายยายอีกด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความปลื้มปีติและอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง มีชาวบ้านเดินทางมาแสดงความยินดีอย่างคึกคัก
นายวีระ หมายกล้า ผู้ใหญ่บ้านปะ กล่าวว่า มีประชาชนผู้ใจบุญทั้งในและต่างประเทศโอนเงินมาช่วยเหลือสามพี่น้องตายยายถึงกว่า 7.8 แสนบาท ซึ่งหักจากการสร้างบ้านต่างๆ เหลือยอดเงินประมาณ 4.7 แสนบาท ซึ่งมีรายการเบิกจ่ายอย่างชัดเจนสามารถตรวจสอบได้ และส่วนบัญชีเงินฝาก มีชื่อผู้เบิกเงิน 3 คน ซึ่งได้มีการประชุมกันแล้วจะเบิกให้เดือนละ 3 พันบาทเพื่อให้ใช้ได้ระยะยาว รวมเงินเบี้ยผู้สูงอายุและผู้พิการจาก อบต.ตั้งใจแล้วรวมทั้งหมดสามพี่น้องตายายจะได้เงินใช้เดือนละประมาณ 5-6 พันบาท
ขอขอบคุณผู้ใจบุญจากทั่วประเทศ รวมทั้งจากต่างประเทศ และทุกหน่วยงานจากหลายจังหวัดที่ช่วยเหลือทุกอย่าง ต้องขอขอบคุณแทนสามพี่น้องตายายเป็นอย่างสูง ตนและคณะกรรมการหมู่บ้าน รวมทั้งนายก อบต. และ ผอ.โรงเรียนบ้านปะ จะช่วยดูแลตายายต่อไป โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายต่างๆ จะให้สามตายายใช้อย่างประหยัดในระยะยาว เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผู้ใจบุญเสียสละช่วยกันบริจาคมา
