xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว 5 โจ๋โหดร่วมสังหารเด็กชาย 14 สารภาพใช้มีดพก และคัตเตอร์แทงร่างพรุน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรี รวบ 5 โจ๋โหดมือสังหารเด็กชายวัย 14 ดับ สารภาพไม่เคยรู้จักกันมาก่อน รับใช้มัดพก และคัตเตอร์แทงร่างพรุน เหตุคะนอง ด้านครอบครัวผู้เสียหายเตรียมเผาศพวันนี้



ความคืบหน้ากรณี ด.ช.อุทัย ศรีสุข อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 (บ้านเก่าวิทยา) อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 9 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย และใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสเมื่อกลางดึกของวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงในช่วงเช้าของวันที่ 5 ต.ค. เหตุเกิดที่เชิงสะพานสมเด็จพระสังฆราช ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ต่อมา นายศรีไพร และนางมนภิรา ศรีสุข พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย น.ส.ทิติมา ศรีสุข อายุ 17 ปี ลูกสาวคนโต รวมทั้ง นายเสถียร ลาภไธสง อายุ 36 ปี น้าชาย นายบำรุง รวบรวม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านลำทราย ต.บ้านเก่า เครือญาติ และเพื่อนบ้านร่วม 100 คน รวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เร่งติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยจะไม่ยอมฌาปนกิจศพ ด.ช.อุทัย หรือน้องเปา จนกว่าเจ้าหน้าที่จะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้

ล่าสุด เมื่อเวลา11.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย ร.ต.ท.ธรรมวัฒน์ สุขีวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ 5 คน มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายอั้ม นายท็อป นายคิม นายอ้วน และนายเอ ทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ซึ่งทุกคนยอมรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้าย ด.ช.อุทัย หรือน้องเปา จนเสียชีวิตจริง

นายอั้ม ให้การยอมรับสารภาพว่า คืนวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมกับเพื่อนประมาณ 7 คน ได้ไปจับกลุ่มดื่มเบียร์กัน จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่สะพานสมเด็จพระสังฆราช และได้เกิดมองหน้ากับกลุ่มของผู้เสียชีวิตที่พบว่า มาด้วยกันเกือบ 20 คน และกลุ่มของผู้เสียชีวิตได้ตะโกนให้ของลับ พวกตนจึงเกิดความโมโห ตนจึงคว้าเอามีดพกปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบที่พกมาด้วยออกมา

เมื่อกลุ่มของผู้ตายเห็นได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไปจนหมด เหลือเพียงผู้เสียชีวิตกับเพื่อนอีก 1 คน ที่หนีไม่ทันเนื่องจากสตาร์ทรถจักรยานยนต์ไม่ติด พวกตนจึงรุมกระทืบ และชกต่อย ส่วนตนได้ใช้อาวุธมีดแทงใส่ตามร่างกายของคนตายไปหลายครั้ง และระหว่างชุลมุน นายท็อป ได้ใช้มีดคัตเตอร์ที่พกมาด้วยฟัน และแทงตามร่างกายไปหลายครั้งเช่นกัน ส่วนเพื่อนของผู้ตายก็ถูกตบ และต่อยไปหลายครั้ง หลังก่อเหตุจึงแยกย้ายกันหลบหนี จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้

ด้าน นายท็อป มือคัตเตอร์ กล่าวว่า พวกตนต้องฝากขอโทษไปยังพ่อและแม่ รวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตด้วย พวกตนไม่ได้ตั้งใจทำร้ายให้ ด.ช.อุทัย เสียชีวิต เพราะกลุ่มของพวกตนกับกลุ่มของผู้เสียชีวิตไม่เคยโกรธเคืองกัน และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งขณะมีเรื่องกันนั้นเป็นเพราะความคึกคะนองของพวกตนจริงๆ ซึ่งหลังจากพ่อแม่ของพวกตนทราบข่าว พ่อแม่ก็ได้แต่ทำใจ

ด้าน พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ ได้มีคำสั่งให้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งก็ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยุทธชัย มีสายมงคล สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ประชุมวางแผน และแบ่งกำลังกันออกติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหามาอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งรู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมด จนนำไปสูการขออนุมัติหมายจับจากศาลเยาวชนจังหวัดกาญจนบุรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายคิม ได้ก่อนที่บ้านพัก โดยพ่อและแม่ของ นายคิม ก็ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นนายคิม ก็ยอมรับสารภาพว่าร่วมลงมือก่อเหตุกับใครบ้าง จึงเป็นที่มาของการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 5 คน และจากการสอบปากคำผู้ต้องหาต่างก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 5 รายยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งไปฝากขังที่ศาลเยาวชนจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ขอฝากไปถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มกำลัง แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเด็ก และเยาวชน ทำให้แนวทางการสืบสวนสอบสวนนั้นจะต้องมีความละเอียดเพราะจะต้องร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อีกหลายหน่วยงาน การจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดในครั้งนี้ก็หวังว่าครอบครัว และญาติของผู้เสียชีวิตคงจะสบายใจขึ้น

ส่วนบรรยากาศที่วัดสามพระยา หมู่ 9 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สถานที่สวดพระอภิธรรมศพ ด.ช.อุทัย ศรีสุข หรือน้องเปา อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 (บ้านเก่าวิทยา) เป็นไปอย่างเศร้าโศก นายศรีไพร นางมนภิรา ศรีสุข พ่อกับแม่ และ น.ส.ทิติมา ศรีสุข อายุ 17 ปี ลูกสาวคนโต พร้อมด้วย นายเสถียร ลาภไธสง น้าชาย นายบำรุง รวบรวม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านลำทราย ต.บ้านเก่า พร้อมญาติ และเพื่อนบ้านกว่า 100 คน เตรียมที่จะเคลื่อนศพขึ้นสู่เมรุ และกำหนดพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 14.00 น.ซึ่งก่อนเคลื่อนย้ายศพทุกคนต่างร่วมกันถ่ายรูปหน้าโลงศพเพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก

นายศรีไพร นางมนภิรา ศรีสุข ร่วมกันกล่าวว่า ตนและครอบครัวตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำพิธีฌาปนกิจ น้องเปา ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องยกเลิกเพราะครอบครัวเกรงว่า หากเผาศพของน้องเปา แล้วเสร็จคดีจะไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น จึงตัดสินใจว่าจะเผาศพน้องเปาก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหดมาดำเนินคดีให้ได้เสียก่อน

โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ได้เดินทางมาพบกับตน และครอบครัว และได้รับปากกับพวกตนว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้แล้ว และจะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ภายในวันที่ 9 ต.ค.หลังจากศาลออกหมายจับ ซึ่งก็เป็นไปตามที่ผู้กำกับรับปากเอาไว้ ทำให้ตน และครอบครัวตัดสินใจ เผาศพน้องเปาลูกชายในวันนี้ ท้ายนี้สิ่งที่ตน ครอบครัว และญาติต้องการมากที่สุดคือ ขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาที่จับได้ทั้ง 5 คน มาไหว้ขอขมาต่อหน้าศพของลูกชายตนก่อนที่จะทำการเผาศพ

แต่อย่างไรก็ตาม ตนและครอบครัวต้องขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนุบรี ที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ทั้งหมด โดยเฉพาะ พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่ได้เดินทางมาพบตน และครอบครัวที่วัดสามพระยา สถานที่ตั้งศพน้องเปา เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากทำพิธีเผาศพแล้วเสร็จ ทุกคนจะเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง



กำลังโหลดความคิดเห็น