กาญจนบุรี - พ่อ-แม่ เครือญาติโจ๋ 14 ปี เหยื่อแก๊งวัยรุ่นโหดชูป้ายหน้าโลงศพวอนตำรวจเร่งจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดี ยันจะเก็บศพไว้จนกว่าจะจับได้ แนะรัฐบาลแก้กฎหมายเอาผิดวัยรุ่นต่ำกว่า 18 ปี หากก่ออาชญากรรมร้ายแรงบทลงโทษต้องเหมือนผู้ใหญ่ ด้าน ผกก.เมืองกาญจนบุรี ยันรู้ตัวผู้ต้องหาหมดแล้ว เชื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับได้วันนี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ศาลาวัดสามพระญา หมู่ 9 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สถานที่สวดพระอภิธรรมศพ ด.ช.อุทัย ศรีสุข อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 (บ้านเก่าวิทยา) นายศรีไพร ศรีสุข อายุ 41 ปี นางมนภิรา ศรีสุข อายุ 35 ปี 2 สามีภรรยา และ น.ส.ทิติมา ศรีสุข อายุ 17 ปี ลูกสาวคนโต อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 9 ต.บ้านเก่า พร้อมด้วย นายเสถียร ลาภไธสง อายุ 36 ปี น้าชาย และนายบำรุง รวบรวม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านลำทราย ต.บ้านเก่า เครือญาติ และเพื่อนบ้านร่วม 100 คน
สวมชุดดำชูป้ายเรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เร่งรัดจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุรุมทำร้าย และใช้อาวุธมีแทง ด.ช.อุทัย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 4 ต.ค. และเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยม พ.ต.อ.พิศุทธ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เดินทางไปพบเพื่ออธิบายการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยรับปากว่า วันนี้ (9 ต.ค.) จะจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน โดย นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ นายสุวัฒนา ม่วงหวาน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด
นางมนภิรา ศรีสุข แม่ของ เด.ช.อุทัย หรือน้องเปา เปิดเผยว่า เย็นวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายได้ขอไปเที่ยงงานเทศกาลเห็ดโคน ที่ทางเทศบาลเมืองกาญจนบุรีจัดขึ้นที่บริเวณลานข้างสนามกีฬากลีบบัว ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี ตนเห็นว่าเป็นวันสุดท้ายของงานจึงอนุญาตให้ไปโดยมี นายตอง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายเอิร์ท (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายคิง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และนายนัด (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ไปด้วยกันรวม 5 คน โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้งหมด 4 คัน ต่อมา เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ลูกชายพร้อมกับเพื่อนก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แต่ได้แวะนั่งเล่นกันที่เชิงสะพานสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง
ต่อมา ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ประมาณกว่า 20 คัน ขึ้นมาจากท่าน้ำขึ้นมาบนสะพาน และเห็นลูกชายของตน และเพื่อนนั่งเล่นอยู่จึงเกิดมองหน้ากันเกิดขึ้น กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงจอดรถ และเข้ามารุมทำร้ายลูกชายของตน และเพื่อน ทุกคนพยายามจะขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีแต่ไม่ทัน บางคนก็วิ่งหลบหนีไปได้
สำหรับลูกชายของตนหนีไม่ทันจึงถูกรุมทำร้าย และ 1 ในกลุ่มวัยรุ่นได้ใช้อาวุธมีดแทงเข้าตามร่างกายของลูกชายตนหลายแผล จนล้มฟุบจมกองเลือดอยู่กับพื้น หลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวลูกชายของตนส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลธนกาญจน์ และถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 5 ต.ค.ลูกชายของตนก็เสียชีวิตลง และนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โดยมีน้าชายไปด้วย จากนั้นจึงรับศพมาทำพิธีทางศาสนาในช่วงเย็นของวันที่ 5 ต.ค. และมากำหนดฌาปนกิจศพของลูกชายเวลา 16.00 น.ของวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา
ระหว่างนั้นมีญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านจำนวนมากมาในพิธีฌาปนกิจศพ แต่สุดท้ายตน และครอบครัวจึงตัดสินในยกเลิกพิธี เนื่องจากต้องการรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้เสียก่อน และหากยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ตนและครอบครัวจะไม่ยอมเผาศพลูกชายอย่างเด็ดขาด
ด้าน นายเสถียร ลาภไธสง น้าชายของน้องเปา ที่เสียชีวิต กล่าวว่า อยากขอร้องไปยังรัฐบาลให้ช่วยแก้ข้อกฎหมายว่า หากมีกลุ่มวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 18 ปีลงมา ไปก่อเหตุอาชญากรรมร้ายแรง อย่างที่หลานชายตนถูกทำร้ายจนเสียชีวิต หากจับกุมคนร้ายได้ขอให้ดำเนินคดีเช่นเดียวกับคดีที่ผู้ใหญ่ก่อเหตุ เพราะที่ผ่านมา เมื่อเด็กวัยรุ่นที่ยังเป็นเยาวชนหลังก่อเหตุ และถูกจับกุมตัวได้ ก็จะส่งตัวไปยังศาลเยาวชน อีกไม่นานก็ออกมาก่อเหตุซ้ำอีก โดยไม่เกรงกลัวต่อบทลงโทษ ตนเชื่อว่า หากรัฐบาลแก้กฎหมายได้ตามที่ตนร้องขอ เชื่อว่าการที่เยาวชนจะก่อเหตุอาชญากรรมร้ายแรงคนจะน้อยลง และขอให้เอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหลายชายของตนนำไปเป็นตัวอย่าง และเชื่อว่าสิ่งที่ตนเสนอจะมีผู้ปกครองของเด็ก และเยาวชนเห็นด้วยเป็นจำนวนมาก
ส่วน พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยหลังจากอธิบายทำความเข้าใจต่อพ่อแม่ของเด็กที่เสียชีวิตว่า จากการที่พ่อแม่ของเด็กสูญเสียลูกชาย และได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งหลังเกิดเหตุคืนวันที่ 4 ต.ค. และน้องได้เสียชีวิตลงในวันที่ 5 ต.ค. โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนหัวตัวกลุ่มคนร้ายมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด และปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่จนกระทั่งทราบตัวกลุ่มคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร
เบื้องต้น สามารถรู้ตัวคนร้าย จำนวน 3 คน อายุประมาณ 16 ปี ซึ่งเย็นวันนี้ 9 ต.ค.เจ้าหน้าที่จะได้รายงานให้ศาลทราบเพื่อขออนุมัติหมายจับ เชื่อว่าภายในวันนี้จะสามารถขอหมายจับได้ ส่วนตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตามประกบตัวอยู่ตลอดเวลา และหากหมายศาลออกมาเมื่อไหร่ก็สามารถจับกุมตัวได้ในทันที
ดังนั้น จึงอยากให้พ่อแม่ และครอบครัวของน้องเปา ที่ถูกทำร้ายเสียชีวิตให้ใจเย็นๆ และขอให้ไว้ใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด โดยหลังจากสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนหาตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด
สุดท้ายขอฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองของวัยรุ่นว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ดังนั้น ผู้ปกครองจะต้องดูแลบุตรหลานให้ดี ปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองตั้งด่านในช่วงเวลากลางคืนอย่างเข้มข้น หากจับกุมวัยรุ่นที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเที่ยวเตร่ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์เอาไว้ และนำตัวบุตรหลานไปที่โรงพัก
จากนั้นจะประสานให้ผู้ปกครองมารับตัวในช่วงเช้า หรือหลังจับกุมทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ไปศึกษาข้อกฎหมายว่า หากบุตรหลานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกระทำผิด ผู้ปกครองจะมีความผิดด้วยหรือไม่ หากพบว่าผู้ปกครองมีความผิดด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการในทันที