xs
xsm
sm
md
lg

ย้าย นศ.เหยื่อวัยรุ่นกาญจน์ตีนโหดเข้า “ไอซียู” เป็นเจ้าชายนิทรา 4 วันยังไม่ฟื้น แก๊งโจ๋ที่รุมทำร้ายมอบตัวแล้ว 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายพีรพล วิชาดี หรือ น้องเต้ย อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
กาญจนบุรี - ย้าย “น้องเต้ย” นักศึกษาวิศวกรรมโยธา ม.จอมบึง เหยื่อ 30 วัยรุ่นกาญจน์ตีนโหดเข้า “ไอซียู” รพ.พหลฯ หลังเป็นเจ้าชายนิทรามา 4 วันแล้วยังไม่ฟื้น แม่ ป้า และพี่ชายภาวนาขอให้เกิดปาฏิหาริย์แก่น้องให้ฟื้นกลับมาปกติ ด้าน ผกก.ท่าม่วง เผยผู้ปกครองทยอยนำโจ๋ตีนโหดเข้ามอบตัวแล้ว 2 ราย พบอายุแค่ 15 ปี ส่วนที่เหลือคาดเข้าพบตำรวจภายในอาทิตย์นี้ พร้อมวอนสื่องดถ่ายภาพเนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ยังไม่เข้ามามอบตัวนั้นเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-17 ปีเท่านั้น

ความคืบหน้ากรณีเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้นามว่า “ต้นไม้” นำคลิปวิดีโอภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน รุมทำร้าย นายพีรพล วิชาดี หรือน้องเต้ย อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคลิปนำไปเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ความยาว 2.32 นาที หลังเกิดเหตุเพื่อนของ นายพีรพล ที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บด้วยกันได้ช่วยกันนำร่างของ นายพีรพล ไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 อ.ท่าม่วง

แต่เนื่องจาก น้องเต้ย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสนอนไม่รู้สึกตัว จึงต้องส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา โรงพยาบาลประจำจังหวัดที่มีอุปกรณ์ที่มีความพร้อมกว่า เนื่องจากจนถึงขณะนี้ผ่านมา 4 วันแล้ว น้องเต้ย ยังไม่ฟื้นตัว โดยรักษาตัวอยู่ที่อาคาร 100 ปี ตึกสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ชั้น 1 มี น.ส.กัญญา ปีคงพันธ์ อายุ 38 ปี นางนงเยาว์ ปีคงพันธ์ อายุ 56 ปี แม่และป้า พร้อมด้วย นายเดชา ปีคงพันธ์ หรือ “ต้นไม้” อายุ 31 ปี ผู้ที่นำคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเป็นพี่ชายของ น้องเต้ย เฝ้าดูอาการด้วยความเป็นห่วง
นายพีรพล วิชาดี หรือ น้องเต้ย อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.35 น. วันนี้ (14 ก.ย.) นายเดชา ปีคงพันธ์ หรือ “ต้นไม้” พี่ชายน้องเต้ย แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า ขณะนี้คณะแพทย์ผู้รักษา และเจ้าหน้าที่พยาบาลได้ย้ายน้องชายออกจากอาคาร 100 ปี เข้าไปยังห้องไอซียูแล้ว ซึ่งแม่ของน้องเต้ย และป้า รวมทั้งตนมีความเป็นห่วงน้องเต้ย เป็นอย่างมาก ซึ่งก็ขอภาวนาให้น้องเต้ย จงหายจากอาการบาดเจ็บ และฟื้นกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว

ส่วนเรื่องคดีทราบจาก พ.ต.อ.ภัคภณ เล็กท่าไม้ ผกก.สภ.ท่าม่วง ที่เดินทางมาเยี่ยมอาการของน้องเต้ย พร้อมกับมอบกระเช้าให้แก่ผู้ปกครองเพื่อเป็นกำลังใจก่อนที่จะนำน้องเต้ย เข้าไปห้อง ไอซียู ว่า มีผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมลงมือก่อเหตุพาบุตรหลานเข้ามามอบตัวแล้ว 2 คน ซึ่งก็พบว่า เป็นเยาวชนอายุแค่ 15 ปีเท่านั้น แสดงให้เห็นว่านี่คือความบกพร่องของผู้ปกครองโดยแท้จริง มิหนำซ้ำยังทราบอีกว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่เข้ามอบตัวยังเป็นเยาวชนอยู่อีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ภัคภณ เล็กท่าไม้ ผกก.สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ตามเส้นทางถนนแสงชูโต ในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งพบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายน้องเต้ย ขับขี่รถจักรยานยนต์มาทั้งหมด 13 คัน มีวัยรุ่นทั้งหมด 26 คน โดยมีหญิงสาววัยรุ่นรวมอยู่ด้วย
นายพีรพล วิชาดี หรือ น้องเต้ย อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
ส่วนกลุ่มของน้องเต้ย ผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน จำนวน 10 คน ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน ซึ่งน้องเต้ย เป็น 1 ใน 3 ที่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และจนถึงขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว ต้องอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นได้นำบุตรหลานเป็นชาย 2 คน อายุ 15 ปีเท่ากันมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วงแล้ว ซึ่งการสอบสวนจะต้องเชิญพนักงานอัยการมาร่วมสอบปากคำด้วย เบื้องต้น เยาวชนทั้ง 2 คน ให้การว่า เป็นผู้ร่วมลงมือก่อเหตุ โดยใช้เท้าเตะผู้เสียหายไป 2 ครั้งเท่านั้น และขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเยาวชนทั้ง 2 คน แต่อย่างใด

ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่เข้ามามอบตัวส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-17 ปีเท่านั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวหมดแล้ว คาดว่าผู้ปกครองของเยาวชนแต่ละคนจะพาเข้ามอบตัวทั้งหมดในเร็วๆ นี้ และเนื่องจากผู้ลงมือก่อเหตุเป็นเยาวชน ดังนั้น จึงขอร้องสื่อมวลชนไม่ให้ถ่ายภาพ หวังว่าสื่อมวลชนคงเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่
กำลังโหลดความคิดเห็น