ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าฯ ชลบุรี สั่งเข้มใช้กฎหมายเข้มงวดแก้ปัญหาเจ็ตสกี พร้อมเตรียมใช้ ม.44 จัดการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือละเลยปัญหาเจ็ตสกีชายหาดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และจัดตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่สางปัญหา ด้าน สม.พัทยา ชี้ต้องเอาจริงพวกผู้ประกอบการนอกรีต
วันนี้ (9 ต.ค.) นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายชาคร กัญจนะวัตตะ นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานการประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย ป้องกันจังหวัดชลบุรี สำนักงานเจ้าท่าพัทยา กองบังคับการกองปราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว เมืองพัทยา บริษัทประกันภัย และตัวแทนผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จอมเทียน และเกาะล้าน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา และจัดระเบียบผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีในพื้นที่
หลังพบว่า สถานการณ์ของปัญหาการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในการเรียกร้องค่าเสียหายยังสูงเกินความเป็นจริง ถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างรุนแรง
นายรณกิจ กล่าวว่า ปัญหาเจ็ตสกีเกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน กระทั่งปี 2555 จังหวัดชลบุรี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ถึงปัจจุบันปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่ลดน้อยลงเนื่องจากมีผู้ประกอบการบางรายที่แฝงตัว และสร้างปัญหาอย่างต่อเนื่อง จนมีการร้องเรียนจำนวนมากทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับชาติ กระทั่งมีหนังสืออย่างเป็นทางการจากสถานเอกอัครทูตอินเดีย และจีน เพื่อให้กำหนดมาตรการแก้ไขที่ชัดเจน
ล่าสุด จากการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้สั่งการให้มีการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนอย่างเคร่งครัดในทุกมิติ เนื่องจากมีการผ่อนผันมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งหากปล่อยปละละเลยอาจทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ
โดยได้กำหนดให้สำนักงานเจ้าท่า ทำการร่างประกาศข้อบังคับก่อนเสนอตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ลงนามเพื่อประกาศใช้อย่างเร่งด่วน และกำหนดให้ผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกี จัดทำประกันภัยเรือโดยภาคสมัครใจ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับในการบังคับใช้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนจะนำเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อสำนักงานเจ้าท่าเพื่อขอเปลี่ยนประเภทการใช้เรือจากเรือสำราญกีฬา มาเป็นประเภทเช่าเพื่อนำมาประกอบอาชีพในพื้นที่ที่ภาครัฐกำหนด
แต่หากไม่ดำเนินการจัดทำประกันภัยตามที่ระบุได้ จะไม่อนุญาตให้นำเรือออกให้บริการในพื้นที่ชายฝั่งทะเลพัทยา โดยประกาศนี้ยังระบุโทษว่า หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด
ด้าน นายสนิท บุญมาฉาย ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวพัทยา ระบุว่า ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบของผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่จริงจังต่อการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมนอกรีตที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่ราย ซึ่งพบว่า ทุกครั้งมักจะใช้วิธีการข่มขู่ กรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยว แต่หลังจากไกล่เกลี่ยได้ก็ปล่อยให้กลับไปทำกินตามปกติ ล่าสุด ก็ยังเกิดกรณีต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก
ขณะที่ นายชาคร กัญจนะวัตตะ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า ประกาศที่จัดทำขึ้นใหม่ได้กำหนดโทษ และข้อห้ามไว้อย่างเด็ดขาด เช่น กรณีของการจัดทำประกันภัย กรณีของผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจากนี้จะมีคำสั่งการเป็นกรณีพิเศษระบุผู้รับผิดชอบ พร้อมจัดตั้งชุดไกล่เกลี่ยประจำพื้นที่ชายหาดพัทยาเพื่อเฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว โดยหากปล่อยปละละเลย จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้ามาจัดการอย่างเฉียบขาด
สำหรับผู้ประกบอากรรเรือเจ็ตสกีในพื้นที่เมืองพัทยา จอมเทียน และเกาะล้าน ปัจจุบันมีเรือจำนวน 511 ลำ เป็นประเภทเช่า 451 ลำ เรือส่วนตัว 60 ลำ โดยจะมีการเรียกประชุมเพื่อชี้แจงในวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคมนี้อีกครั้ง