xs
xsm
sm
md
lg

ผบก.ป.นำทีมลงพื้นที่เมืองพัทยา ล้างปัญหามาเฟียเจ็ตสกี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้การกองปราบ นำทีมลงพื้นที่เมืองพัทยา เดินหน้าล้างปัญหามาเฟียเจ็ตสกีบริเวณชายหาดพัทยา สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี หลังต่างชาติแห่ร้องเรียนเพียบ เผยหากพบมีการกระทำผิดพร้อมขึ้นบัญชีดำผู้มีอิทธิพล และออกหมายจับดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

วันนี้ (11 ก.ย.) พล.ต.ต.อัครเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอบางละมุง เมืองพัทยา ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสถานีตำรวจภูธรมืองพัทยา กรมเจ้าท่า และองค์กรภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้ารอยัลการ์เด้น ริมชายหาดพัทยาใต้ เพื่อตรวจสอบปัญหาการประกอบการเรือเจ็ตสกีให้เช่า หลังได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการแก้ไขและป้องปราม พร้อมดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด

เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวผ่านสถานทูตจากประเทศต่างๆ ว่าถูกกลุ่มผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีให้เช่าบางรายบริเวณชายหาดพัทยา ขูดรีดค่าบริการอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งยังมีพฤติกรรมเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลด้วยการข่มขู่ และกรรโชกทรัพย์ กรณีดังกล่าวถือเป็นภัยสังคม และสร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ ได้เชิญผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีให้เช่า ทั้งในส่วนที่เป็นเจ้าของกิจการ ผู้ขับขี่ และลูกจ้างกว่า 30 ราย มาทำประวัติไว้เป็นหลักฐาน ก่อนชี้แจงถึงสภาพปัญหาพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี

พล.ต.ต.อัครเดช กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวภาครัฐได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีประมาณ 2 กลุ่มที่ทำกินบริเวณชายหาดพัทยาเข้าข่ายมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล หากินอย่างไม่เป็นธรรม และสุจริต โดยมีการทำงานกันเป็นขบวนการ มีผู้รู้เห็นเกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน ขูดรีด ข่มขู่ และกรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยวในลักษณะกลั่นแกล้งว่าเกิดความเสียหายต่อตัวเรือที่นักท่องเที่ยวนำออกไปเล่น โดยจะเรียกเก็บเงินเกินสนนราคาที่ตกลงไว้ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนบาท

ทำให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และประเทศไทยได้รับความเสียหายอย่างมาก เบื้องต้น จึงได้มีการจัดทำประวัติ พร้อมจะทำการสืบสวนเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ซึ่งหากพบมีการกระทำผิด และขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องได้ก็จะขึ้นบัญชีดำเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล และออกหมายจับดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

“จากนี้จะมีการสนธิกำลังบูรณาการร่วมทุกฝ่ายเอาจริงเอาจังต่อการตรวจสอบ และเฝ้าระวังป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น พร้อมประสานกับท้องถิ่นเพื่อกำหนดกรอบ กติกาในการทำกินเพื่อให้เกิดความถูกต้อง เป็นธรรมแก่นักท่องเที่ยว และสังคม โดยจะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ยืนยันว่าจะไม่ให้มีคนที่ประพฤติตนอยู่เหนือกฎหมาย และจะดำเนินการเร่งด่วนพร้อมขยายผลไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วประเทศ” พล.ต.ต.อัครเดช กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น