ASTV ผู้จัดการ - พนักงานสอบสวนยื่น ป.ป.ท.เอาผิด 3 ตำรวจ หลังศาลอนุมัติหมายจับคดีอุ้มนักธุรกิจญี่ปุ่นรีดเงิน 1 ล้าน บนตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ สาทรใต้ และผู้เสียหายมาชี้รูปถ่ายยืนยันเป็นผู้ก่อเหตุจริง ด้าน ผบช.น.เผยสั่ง 2 นายตำรวจสังกัดออกจากราชการแล้ว เจอที่ไหนจับได้เลย ขณะผู้การกองปราบสั่ง ตร.ในสังกัดที่ถูกหมายจับออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
จากกรณีนายคิกูชิ มาซาโตะ อายุ 36 ปี ชาวญี่ปุ่น ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.ทรงศักดิ์ เศษฤทธิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ยานนาวา หลังจากถูกกลุ่มคนอ้างตัวเป็นตำรวจกรรโชกทรัพย์เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้านบาท เหตุเกิดภายในห้องพักบนอาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้ขออนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.พงษ์ธวัช คงเสือ สว.งานยุทธศาสตร์และแผน กก.อก.บก.น.6 หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.629/2558 รวมทั้ง หมายจับ ร.ต.ท.กฤตย์ปกรณ์ เนียมสอน รอง สว.ใน บก.ป. หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.630/2558 และหมายจับ ด.ต.วีระศักดิ์ เภาสู ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.พระโขนง หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.631/2558 โดยทั้ง 3 หมายจับแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกโดยมีอาวุธปืน, เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือมีประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบในหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ลงวันที่ 21 กันยายน 2558
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ก.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แล้วตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะทำการขออนุมัติหมายจับนั้น ได้เชิญผู้เสียหายมาชี้รูปถ่ายของผู้ที่ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าทั้ง 3 รายเป็นคนที่ก่อเหตุจริง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางผู้เสียหายยังคงอยู่ในประเทศไทย และยังไม่ได้ร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัย หากทางผู้เสียหายต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยก็สามารถทำได้โดยการทำเรื่องตามขั้นตอนมา
ต่อมา พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจที่ถูกกล่าวหาแล้ว ตำรวจนายดังกล่าวคือ ร.ต.ท.กฤตย์ปกรณ์ เนียมสอน รอง สว.กก.1 บก.ป. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.630/2558 ลงวันที่ 21 ก.ย. 2558 พร้อมกับได้รับการประสานจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อสอบถามข้อมูลของตำรวจคนดังกล่าวว่าได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ตนจึงได้สั่งการให้ ร.ต.ท.กฤตย์ปกรณ์ เดินทางมาเข้าพบเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบว่ามีการกระผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริงก็จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการสั่งพักราชการตำรวจนายดังกล่าวแต่อย่างใดเนื่องจากยังไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงดังกล่าวได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.กล่าวว่า สำหรับตำรวจในสังกัด บช.น.2 นายที่ถูกออกหมายจับนั้นได้สั่งให้ออกราชการเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ทั้งนี้ ตนขอกำชับให้กำลังพลใน บช.น.อย่าไปกระทำการในลักษณะดังกล่าว ให้อดอย่างเสือ ส่วนการสอบปากคำตำรวจทั้ง 2 นายตนไม่ทราบรายละเอียด แต่เขาขาดราชการและไม่ได้มีการประสานมารับทราบข้อกล่าวหา ก็ให้ออกราชการ เป็นการดำเนินการทางวินัย ออกหมายจับแล้วเจอที่ไหนก็จับ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.ท.กฤตย์ปกรณ์ เนียมสอน รอง สว.กก.1.บก.ป.ออกจากราชการไว้ก่อน จากกรณีร่วมกับพวกขู่กรรโชก รีดทรัพย์ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นกว่า 1 ล้านบาท ท้องที่ สน.ยานนาวา