ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พ่อเด็ก 3 คนที่เสียชีวิต และสามีของหญิงท้อง 8 เดือนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกรณีหนุ่มป่วยทางจิตคลั่งคว้ามีดไล่ฟัน เรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ย้ำทางครอบครัวและทั้งหมู่บ้านไม่ยินยอมแน่หากถูกปล่อยลอยนวล
ความคืบหน้ากรณีนายอาซาผะ สีวัวะ อายุ 22 ปี หนุ่มผู้ป่วยทางจิตคลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้มีดฟันเด็กเสียชีวิต 5 ศพ และหญิงท้อง 8 เดือนได้รับบาดเจ็บ ที่อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 58 ที่ผ่านมานั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (30 ก.ย.) นายอากวง แซ่หยิน อายุ 48 ปี สามีของนางยี่กอ แซ่เจิ้น หญิงท้อง 8 เดือน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ได้เดินทางกลับมาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเฝ้าไข้และดูแลนางยี่กอ ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ หลังจากที่วานนี้ (29 ก.ย.) ได้ไปจัดพิธีศพให้ลูกชายทั้ง 3 คนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกันเสร็จสิ้นแล้ว
สำหรับอาการทางร่างกายล่าสุดของนางยี่กอ เหลือเพียงอาการปวดที่บาดแผลทั้ง 2 แห่ง ขณะที่สภาพจิตใจถือว่าดีขึ้นกว่าวานนี้ และสามารถพูดคุยกับสามีได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตามยังมีอาการเหม่อลอยและร้องไห้เสียใจต่อการจากไปของลูกชายทั้งสามคนอยู่
ส่วนนายอาซาผะ ผู้ป่วยทางจิตทีก่อเหตุนั้นขณะนี้อยู่ในความควบคุมดูแลของทีมแพทย์โรงพยาบาลสวนปรุง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเข้ารับการรักษาโดยการให้ยารับประทาน รวมถึงกำลังอยู่ในขั้นตอนการเก็บข้อมูลสภาพจิตเพื่อนำไปประเมินเหตุจูงในเจตนาของการก่อเหตุต่อไป
ทั้งนี้ นายอากวง แซ่หยิน อายุ 48 ปี สามีนางยี่กอ ที่เพิ่งสูญเสียลูกชาย 3 คน เปิดเผยว่า หลังจากที่จัดการพิธีศพลูกทั้ง 3 คนเสร็จสิ้นแล้วได้รีบกลับมาดูแลภรรยาที่โรงพยาบาล เวลานี้ยังมีอาการปวดตามแผลทั้งที่มือและใบหน้า โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ตนต้องหยุดทำงานและขาดรายได้เพื่อมาเฝ้าดูแลภรรยา และยังเสียใจต่อการจากไปของลูกๆ อยู่
ในส่วนของการดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุ ส่วนตัวต้องการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุจนถึงที่สุด และเป็นไปได้อยากให้ติดคุกตลอดชีวิต โดยยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่าจะไม่มีการดำเนินคดีเนื่องจากเป็นผู้ป่วยทางจิต และต้องการให้ทางโรงพยาบาลสวนปรุงรับตัวผู้ก่อเหตุไว้รักษาและไม่ปล่อยตัวออกมากจนกว่าจะหายขาด
ทั้งนี้ หากมีการปล่อยตัวออกมาและไม่มีการตั้งข้อหาดำเนินคดีใดๆ เชื่อว่านอกจากครอบครัวของตัวเองแล้วคนในหมู่บ้านจะไม่ยินยอมเช่นเดียวกัน