ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จนท.ส่งตัวหนุ่มป่วยทางจิตคลุ้มคลั่งที่ก่อเหตุคว้ามีดไล่ฟันสังหารเด็ก 5 ศพ จนถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ที่ไชยปราการ เข้ารักษาตัวที่ รพ.นครพิงค์แล้ว พร้อมจัดตำรวจ 2 นายเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง เบื้องต้นตั้งข้อหาฆ่าคนตาย แต่จะให้ส่งให้จิตแพทย์ทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อวิเคราะห์สภาพจิตใจและหาสาเหตุ ด้านหญิงท้อง 8 เดือนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกฟันเข้าที่ใบหน้า แขนและมือ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
ความคืบหน้ากรณีที่วานนี้ (27 ก.ย.) นายอาซาผะ สีวัวะ อายุ 22 ปี ผู้ป่วยทางจิต ได้ก่อใช้อาวุธมีดไล่สังหารเด็กอายุ 2-8 ขวบ เสียชีวิต 5 คน รวมทั้งทำร้ายนางยี่กอ แซ่เจิ้น หญิงตั้งท้อง 8 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 250 หมู่ 5 บ้านใหม่หนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ จนถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บและจับตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานข่าวแจ้งว่าช่วงคืนวานนี้เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอาซาผะ ผู้ก่อเหตุ และนางยี่กอ หญิงตั้งครรภ์ซึ่งตกเป็นเหยื่อถูกทำร้ายส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
โดยวันนี้ (28 ก.ย.) พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยหลังการเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ต้องหาที่ก่อเหตุว่า นางยี่กอผู้ได้รับบาดเจ็บที่ตั้งท้องประมาณ 8 เดือน โดนมีดฟันบริเวณใบหน้า รวมทั้งแขนและมือขวาจนเส้นเอ็นขาดนั้น ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว และจากการอัลตราซาวนด์พบว่าลูกในท้องยังดิ้นดี เบื้องต้นได้มีการมอบเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่งแก่ครอบครัวผู้บาดเจ็บรายนี้ที่ต้องสูญเสียลูก 3 คน และหลาน 2 คน จากเหตุในครั้งนี้
ส่วนผู้ต้องหาที่มีอาการเลือดออกในสมอง และแขนขวา ตอนนี้เริ่มรู้สึกตัวแล้วในบางครั้ง โดยได้มัดมือสองข้างล่ามโซ่ไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยอื่นๆ และในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าควบคุม ซึ่งทางตำรวจได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 นายดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยการตรวจเลือดผู้ต้องหาก็ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด และยาที่ผู้ต้องหากินเป็นยากล่อมประสาทอยู่แล้ว
สำหรับขั้นตอนการสืบสวนรวมถึงขั้นตอนการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นอีก ในขณะนี้ได้ทำงานคู่ขนานกับนายแพทย์ปริทรรศ ศิลปกิจ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง ที่ขณะนี้เดินทางเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุในอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประเมินผลกระทบทางจิตใจของครอบครัวผู้เสียหาย จากการทำงานร่วมกันในครั้งนี้เพื่อที่จะตอบคำถามต่อสังคมว่าทำอย่างไรสังคมจึงจะปลอดภัยจากคนไข้ที่เกิดอาการคลุ้มคลั่ง
ด้านคดีความได้ตั้งข้อหานายอาซาผะ สีวัวะ ในข้อหาฆ่าผู้อื่น อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวคงจะต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ทั้งซักถามและส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจรักษานำผลมาดูเพื่อหาถึงเหตุจูงใจของผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ว่าเกิดจากอะไร เนื่องจากเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมสะเทือนขวัญ และต้องเพิ่มความระมัดระวังและตระหนักถึงภัยตรงนี้ด้วย โดยอย่างน้อยที่สุดก็จะต้องมีการพูดคุยกับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ว่ามีคนไข้ที่มีอาการในลักษณะเดียวกันนี้และถูกปล่อยตัวไปแล้วหรือไม่ รวมถึงต้องให้คนในส่งคมช่วยเหลือตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของผู้ก่อเหตุนั้นยังมีอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ชายคนนี้เกิดความคลุ้มคลั่ง คือ ผลที่มาจากการใช้ยาเสพติด และอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดประสาทหลอน เมื่อได้ยินเสียงเด็กดังรบกวนก็อาจทำให้อาการกำเริบและลงมือก่อเหตุที่ไม่คาดคิด ส่วนทางญาติของเด็กที่เสียชีวิตก็ทราบมาว่าต่างโกรธแค้นผู้ต้องหาและตามล่าตัวเพื่อที่จะแก้แค้น ทางตำรวจก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่โดยประสานไปกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแม่ริมให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ผู้ต้องหา และคงต้องส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป