xs
xsm
sm
md
lg

ทหารผนึกหลายหน่วยงานรื้อถอนโพงพางกีดขวางทางน้ำกว่า 10 กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จันทบุรี- ทหาร และหลายหน่วยงาน ผนึกกำลังเข้ารื้อถอนโพงพาง และหลักรอที่กีดขวางทางน้ำในคลองบางกระจะ และปากคลองท่าแฉลบ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรอย่างต่อเนื่อง หลังครบกำหนดการผ่อนผัน

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบท่าแฉลบ ตำบลบางกระจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี นายบัญชา สุขแก้ว ประมงจังหวัดจันทบุรี ได้สนธิกำลังประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด เจ้าหน้าที่จากอำเภอเมือง ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ทหาร อส. และเจ้าหน้าที่อาสาสื่อประมง ได้ร่วมกันเข้าปฏิบัติการในการบังคับใช้กฎหมายตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 24/2558 เพื่อรื้อถอนทำลายเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะโพงพาง และหลักรอที่กีดขวางทางน้ำ แม่น้ำลำคลอง และชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก

จากการเข้ารื้อถอนโพงพาง และหลักรอในวันนี้ไม่มีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ออกมาคัดค้าน หรือเรียกร้องแต่อย่างใด

สำหรับในพื้นที่อำเภอเมือง โดยเฉพาะภายในคลองบางกระจะ และปากคลองท่าแฉลบ ที่มีความยาวของคลองประมาณ 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางกระจะ ตำบลหนองบัว ตำบลเกาะขวาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี พบว่าเต็มไปด้วยโพงพาง และหลักรอเกือบ 200 ช่อง ที่มีเจ้าของได้รื้อถอนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่บางส่วนยังไม่ยอมรื้อถอน เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าทำการรื้อถอนผู้ที่แอบลักลอบ ฝ่าฝืน ออกทั้งหมดตลอดระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะมีการเข้าดำเนินการรื้อถอนโพงพาง และหลักรอออกทั้งหมดในพื้นที่ที่ติดกับชายฝั่งทะเล ล่าสุด มีการรื้อถอนโพงพาง และหลักรอครอบคลุมไปใน 3 อำเภอแล้ว ส่วนอำเภอที่เหลือจะเดินหน้าทำการรื้อถอนต่อไป

จากการสำรวจจันทบุรี มีโพงพางรวม จำนวน 1,893 ช่อง มีผู้ประกอบการ 551 ราย โดยแยกเป็น อำเภอเมืองจันทบุรี จำนวน 79 ราย 109 ช่อง อำเภอท่าใหม่ จำนวน 98 ราย 165 ช่อง อำเภอแหลมสิงห์ จำนวน 95 ราย 131 ช่อง อำเภอขลุง จำนวน 216 ราย 1,393 ช่อง และอำเภอนายายอาม จำนวน 63 ราย 95 ช่อง

ที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้ปิดประกาศแจ้งให้ผู้ประกอบอาชีพประมงในพื้นที่ดังกล่าวได้ทราบล่วงหน้าแล้ว เพื่อเข้าทำการรื้อถอนในช่วงเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายนนี้ โดยภาพรวมแล้วส่วนใหญ่ยอมรับได้ และทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว มีเพียงบางส่วนที่ยังกระทำผิด จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น