จันทบุรี - เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานสนธิกำลังเข้ารื้อถอนโพงพาง หลักรอ ที่กีดขวางทางน้ำ หลังครบกำหนดการผ่อนผัน และก่อนที่จะมีการเข้ารื้อถอนมีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านกว่า 500 คน ต่อต้าน ปะทะคารมกับเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้ารื้อได้
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบแบบเบ็ดเสร็จสิงห์อำนวย ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี นายประสิทธิ์ เปรมจิตต์ นายอำเภอแหลมสิงห์ ได้สนธิกำลังประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอ เจ้าหน้าที่จากอำเภอ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแหลมสิงห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ อส. และเจ้าหน้าที่อาสาสื่อประมง ได้ร่วมกันเข้าปฏิบัติการในการบังคับใช้กฎหมาย ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 24/2558 เพื่อรื้อถอนทำลายเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย
โดยเฉพาะโพงพาง หลักรอที่กีดขวางทางน้ำ แม่น้ำลำคลอง และชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก และก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมีการเข้ารื้อถอนโพงพาง และหลักรอ ก็ได้มีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านกว่า 500 คน ได้แสดงการต่อต้าน และมีการปะทะคารมกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น สุดท้ายการเจรจาเป็นผล ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการรื้อถอนโพงพาง และหลักรอที่กีดขวางทางน้ำออกได้
สำหรับในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ โดยเฉพาะภายในคลองปากน้ำแหลมสิงห์ ที่มีความยาวของคลองประมาณ 20 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตะกาดเง้า ตำบลคลองขุด ตำบลรำพัน อำเภอท่าใหม่ ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม พบว่าเต็มไปด้วยโพงพาง หลักรอที่มีเจ้าของได้รื้อถอนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่บางส่วนยังไม่ยอมรื้อถอน เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าทำการรื้อถอน ผู้ที่แอบลักลอบ ฝ่าฝืนออกทั้งหมดตลอดระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร
จากการสำรวจจันทบุรี มีโพงพางรวม 1,893 ช่อง มีผู้ประกอบการ 551 ราย โดยแยกเป็น อำเภอเมืองจันทบุรี 79 ราย 109 ช่อง อำเภอท่าใหม่ 98 ราย 165 ช่อง อำเภอแหลมสิงห์ 95 ราย 131 ช่อง อำเภอขลุง 216 ราย 1,393 ช่อง และ อำเภอนายายอาม 63 ราย 95 ช่อง
โดยที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้ปิดประกาศแจ้งให้ผู้ประกอบอาชีพประมงในพื้นที่ดังกล่าวได้ทราบล่วงหน้าแล้ว เพื่อเข้าทำการรื้อถอนในช่วงเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายนนี้ โดยภาพรวมแล้วส่วนใหญ่ยอมรับได้ และทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว มีเพียงบางส่วนที่ยังกระทำผิดจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป