ปัตตานี - นายกสมาคมประมงพื้นบ้านปัตตานี วอนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อประมงผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องทรัพยากรสัตว์น้ำให้ยั่งยืน เผยรายได้ประมงอวนลอยกุ้งมีมากขึ้น หลังประกาศ คสช.เรื่องเครื่องประมงผิดกฎหมาย
วันนี้ (1 ต.ค.) ความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายต่อเครื่องมือประมงผิดกฎหมายตามประกาศคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 24/2558 เมื่อวันที่ 24 เม.ย.58 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเครื่องมือทั้งหมด 11 ชนิด คือ โพงพาง ลี รั่วไซมาน ลอบพับ หรือลอบไอ้โง่ อ้วนลอม อวนลาก เพื่อเป็นไปตามคำสั่ง คสช.ในการดำเนินการถอดถอนเครื่องมือประมงประมงผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินได้มากนัก หลังจากมีการเคลื่อนไหวของผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว มีการรวมตัวระหว่างกลุ่มประมงอวนรุน อวนลากที่ผิดกฎหมาย ร่วมกับชาวประมงลอบพับ หรือไอ้โง่ ยื่นหนังสือให้ทางจังหวัดมีการทบทวนคำสั่งของ คสช.ในครั้งนี้
ที่ผ่านมา นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี ได้เรียกคณะทำงานตามคำสั่งฉบับที่ 6/2558 เข้าหารือแนวทางปฏิบัติของการรื้อถอน ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองปัตตานี โดยในส่วนของ จ.ปัตตานี ที่จะต้องมีการรื้อถอนเครื่องมือมีเพียง 2 ชนิด คือ โพงพาง และลอบจับไอ้โง่ จากการตรวจสอบมีประชาชนในพื้นที่ที่ใช้เครื่องมือ 2 ชนิดนี้มีอยู่ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.หนองจิก มีการใช้ลอบจับไอโง่ 147 ราย จำนวนลอบจับไอ้โง่ที่ใช้ 11,760 ลูก อ.ยะหริ่ง 132 ราย จำนวนลอบจับไอ้โง่ 2,640 ลูก และ อ.เมือง จำนวน 210 ราย จำนวนลอบจับไอโง่ 13,240 ลูก ส่วนโพงพาง มีใช้ 3 อำเภอ คือ อ.หนองจิก จำนวน 90 ราย โพงพาง 90 ช่อง อ.ยะหริ่ง จำนวน 20 ราย และบางส่วนของอำเภอเมือง
หลังจากศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายออกคำสั่ง ฉบับที่ 6/2558 ลงวันที่ 26 ส.ค.58 ที่ผ่านมา ทางจังหวัดปัตตานี ในนามคณะกรรมการจึงได้กำหนดให้มีการประกาศแจ้งให้ชาวประมงรับทราบภายในเวลา 15 วัน หลังจากนั้น ให้มีการดำเนินถอดถอนเครื่องมือประมงประมงผิดกฎหมายทันที ซึ่งตรงกับวันนี้ วันที่ 1 ต.ค.58 แต่กลับมีหลายพื้นที่ยังคงมีการลอบใช้เครื่องมือดังกล่าวโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หรือคำสั่งห้าม คสช. และไม่สนใจคำประกาศของจังหวัดปัตตานี 15 วันก่อนหน้านี้แต่อย่างใด มีการลอบนำเครื่องมือไอ้โง่ดักวางตอนกลางคืนเลี่ยงไปดักในคลองแทน
ด้าน นายมุหามะสุกรี มะสะนิง นายกสมาคมชาวประมงพื้นบ้านปัตตานี กล่าววิงวอนให้เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง และความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ ไม่ควรที่จะคำนึงถึงกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นการเฉพาะ อยากเห็นทุกฝ่ายหันมาเรียกร้อง มาร่วมกันสร้างจิตสำนึกต่อการทำประมงแบบยั่งยืน และอนุรักษ์ไม่ใช่เป็นการทำลาย เผื่อลูกหลานเราในอนาคต
ด้าน นายมัคตาร์ สาแม ประธานประมงพื้นบ้านรอบอ่าวปัตตานี กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศคำสั่ง คสช.เกี่ยวกับเครื่องประมงผิดกฎหมาย ทำให้ชาวประมงที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย เช่น ลอบพับได้ หรือไอ้โง่ ไม่กล้าทำประมงอย่างเปิดเผย ถึงแม้จะมีการแอบทำประมงไปบ้างในช่วงเวลากลางคืน ทำให้รายได้ชาวประมงอวนลอยกุ้งในอ่าวฯ มีมากขึ้น เพราะจับกุ้งได้มากขึ้น เพียงแค่ 5 เดือน ชีวิตชาวประมงพื้นบ้านกลับดีขึ้นทันตาเห็น จึงอยากให้ทุกฝ่ายกลับมาให้ความสำคัญต่อการทำประมงไม่ใช้เครื่องที่ทำลายล้างทรัพยากรในอ่าวฯ ก็จะเริ่มสู่ภาวะฟื้นตัวได้