ปัตตานี - ผู้ว่าฯ ปัตตานีสั่งดีเดย์รื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย 30 ก.ย.นี้ หลังเรียกคณะทำงานนัดแรก พร้อมจะดำเนินคดีหากผู้ใดยังฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว
วานนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากมีคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 24/2558 เพิ่มเติมเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่ง คสช.ทาง จ.ปัตตานี นำโดย นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี เรียกคณะทำงานตามคำสั่งฉบับที่ 6/2558 เข้าหารือแนวทางปฏิบัติของการรื้อถอน ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองปัตตานี โดยเป็นการประชุมครั้งแรก หลังจากศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายออกคำสั่ง ฉบับที่ 6/2558 ลงวันที่ 26 ส.ค.2558
โดยในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงแนวทางที่จะดำเนินงานในการรื้อถอนเครื่องผิดกฎหมาย การสำรวจและการประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งของ คสช. ฉบับที่ 24/2558 ลงวันที่ 5 ส.ค.2558
นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี กล่าวว่า คำสั่งฉบับที่ 6/2558 แต่งตั้งคณะทำงานรื้อถอนเครื่องมือการประมงที่ผิดกฎหมายในเขตจังหวัดชายทะเล ซึ่งมีทั้งหมดทั่วประเทศ 22 จังหวัด ซึ่งมีเครื่องมือที่ผิดกฎหมายตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 24/2558 ลงวันที่ 5 ส.ค.2558 ซึ่งมีเครื่องมือทั้งหมด 11 ชนิด คือ โพงพาง โพงพาง (ต่อ) ลี รั่วไซมาน ลอบพับ หรือลอบไอ้โง่ ลอบพับ หรือลอบไอ้โง่ (ต่อ) อวนล้อมจับ อ้วนลอมจับ (ต่อ) อวนลาก อวนลาก (ต่อ)
ซึ่งใน จ.ปัตตานี ที่จะต้องมีการรื้อถอนมีเครื่องมือ 2 ชนิด คือ โพงพาง และลอบจับไอ้โง่ ประชาชนในพื้นที่ที่ใช้เครื่องมือ 2 ชนิดนี้ มี 3 อำเภอ คือ อ.หนองจิก มีการใช้ลอบจับไอโง่ 147ราย จำนวนลอบจับไอ้โง่ที่ใช้ 11,760 ลูก อ.ยะหริ่ง 132 ราย จำนวนลอบจับไอ้โง่ 2,640 ลูก และ อ.เมือง จำนวน 210 ราย จำนวนลอบจับไอโง่ 13,240 ลูก ที่ อ.เมือง ถือว่ามีการใช้มากที่สุด ส่วนโพงพาง มีใช้ 2 อำเภอ คือ อ.หนองจิก จำนวน 90 ราย โพงพาง 90 ช่อง อ.ยะหริ่ง จำนวน 20 ราย โพงพาง 20 ช่อง
“วันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกัน และพิจารณาในการที่จะรื้อถอนเครื่องทั้ง 2 ชนิดนี้ได้อย่างไร ประมงจังหวัดไปสำรวจแล้วก็อยู่ในขั้นตอนการประชาสัมพันธ์ และประกาศชี้แจ้งให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งหลังจากมีการประกาศให้เวลาในการคิด ว่าจะรื้อหรือไม่รื้อ 15 วัน จากนั้นทางคณะทำงานก็จะต้องดำเนินการรื้อถอน คาดว่าจะประมาณ 30 ก.ย.นี้”
ซึ่งสิ่งที่คณะทำงานต้องกลับไปคิดคือหลังจากที่รื้อถอนกันแล้ว พี่น้องประชาชนจะอยู่ได้อย่างไร อาจจะต้องหาอาชีพเสริมให้พวกเขา หรืออาจหาพื้นที่ว่างๆ แล้วให้ไปทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวไปก่อน เพราะแน่นอนต้องมีบางกลุ่มโวยวายว่า ทำมาตั้งแต่เกิด ไม่ออกทำประมง ลูกไม่มีเงินไปโรงเรียน ติดหนี้เป็นแถวยาว ทุกคนต้องมาคิดเรื่องนี้ด้วย แม้ในคำสั่งฉบับนี้ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ แต่ก็อย่าให้ทำเกินอำนาจ อาจจะเลี้ยงปลา ปลูกผักอะไรก็ได้ที่สามารถช่วยบรรเทาปัญหาไปก่อนได้ โดยไม่ต้องกระทบกันมาก
นายวัชรินทร์ รักษ์ยอดจิตร ประมง จ.ปัตตานี กล่าวว่า “หลังจากคำสั่งออกมา ทางคณะทำงานได้มีการลงพื้นที่สำรวจจำนวนเครื่องมือที่มีชาวประมงใช้ทั้งหมด และได้มีการประชาสัมพันธ์ชาวประมงไปแล้วว่า มีคำสั่งฉบับนี้ออกมาให้สามารถรื้อถอน ได้มีการทำความเข้าใจในบางส่วนแล้ว ช่วงนี้อยู่ระหว่างการติดประกาศ จากนั้นก็จะเป็นช่วงที่รอเวลาหลังจากประกาศก็จะรื้อถอน ที่ผ่านมา ทางประมงจังหวัดได้จับเรือประมงที่ทำผิดกฎหมายตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 24/2558 1 ลำ และลอบพับ หรือไอ้โง่ จำนวน 38 ลูก”
นายสุชาติ หวังโต๊ะหมัน รองนายก อบต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี หนึ่งในคณะทำงานรื้อถอนเครื่องมือทำการประมงผิดกฎหมายในเขตจังหวัดชายทะเล กล่าวว่า “บ้านแหลมนก ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี มีการใช้เครื่องมือที่ผิดกฎหมาย ตามคำสั่ง คสช. ฉบับ 24/2558 มากที่สุด หลังจากที่คำสั่งออกมาให้หยุดทำการประมงด้วยเครื่องมือเหล่านี้ ชาวประมงก็ได้ยุติการออกทำการประมงด้วยเครื่องมือนี้ สำหรับชาวประมงถ้าให้เปลี่ยนอาชีพถือว่าเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าให้ปรับเครื่องมือที่ใช้ในการทำประมง คิดว่าน่าจะง่าย และเหมาะสมที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาในเรื่องนี้”