“ลำนางรอง” เขื่อนใหญ่บุรีรัมย์ระดับน้ำยังต่ำ เตรียมงดปล่อยเก็บไว้ผลิตประปา

บุรีรัมย์ - ปริมาณน้ำในเขื่อนลำนางรอง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของ จ.บุรีรัมย์ ยังมีปริมาณน้ำต่ำเหลือเพียง 36% ของความจุอ่างกว่า 121 ล้าน ลบ.ม. หากไม่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มเตรียมงดปล่อยน้ำทำการเกษตร เพื่อกักเก็บสำรองไว้ทำประปาป้องกันเกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำช่วงหน้าแล้ง

วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมา จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับอิทธิพลจากพายุ “หว่ามก๋อ” ทำให้มีฝนตกร้อยละ 80 ของพื้นที่ แต่น้ำในเขื่อนลำนางรอง ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัด ยังมีปริมาณต่ำ ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บในอ่างอยู่เพียง 36 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 43.5 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากปริมาณความจุอ่างทั้งหมดกว่า 121 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้มีฝนตกในพื้นที่ อ.โนนดินแดง วัดได้ 130 มิลลิเมตรก็ตาม

จากกรณีดังกล่าวทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรอง ต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีน้ำไหลเข้าในพื้นที่เขื่อนลำนางรองเพิ่ม อาจงดปล่อยน้ำในการทำการเกษตรในเขตบริการกว่า 40,000 ไร่ เนื่องจากต้องเก็บสำรองน้ำไว้เพื่อผลิตประปาบริการประชาชนในเขตพื้นที่ อ.โนนดินแดง เพราะขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำคลองมะนาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปามีปริมาณน้ำน้อย เกรงไม่เพียงพอผลิตประปาตลอดหน้าแล้ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรอง ก็ได้ปล่อยน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวของเกษตรกร คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งหมดกว่า 22 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะฝนทิ้งช่วงไปแล้ว

นายสุพัฒน์ ฤทธิชู ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรอง มีอ่างเก็บน้ำอยู่ 4 อ่าง คือ เขื่อนลำนางรอง อ่างเก็บน้ำคลองมะนาว อ่างเก็บน้ำลำปะเทีย และอ่างเก็บน้ำลำจังหัน ในจำนวนนี้มีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อย คือ เขื่อนลำนางรอง มีปริมาณน้ำเพียง 36 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 43.53 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำคลองมะนาว มีปริมาณน้ำกักเก็บ 38 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 1.08 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณความจุอ่างทั้งหมดกว่า 2.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอ่างแห่งนี้ใช้เพื่อการผลิตประปาบริการประชาชนของอำเภอโนนดินแดง เฉลี่ยเดือนละ 100,000 ลูกบาศก์เมตร