พะเยา - ผู้ว่าฯ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ยกคณะดูแหล่งเก็บน้ำพะเยา วางแผนรับมือผู้ว่าฯ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องยกคณะดูแหล่งเก็บน้ำพะเยา วางแผนรับมือภัยแล้ง สั่งการประปาส่วนภูมิภาคฯ หาทางยืดระยะเวลาการจ่ายน้ำประชาชน พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจแหล่งน้ำบาดาล แก้ไขยามฉุกเฉิน
วันนี้ (11 ต.ค.) นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามดูระดับน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำที่สำคัญของพะเยา ซึ่งประกอบด้วยอ่างเก็บน้ำแม่ปืม อ.แม่ใจ, กว๊านพะเยา และอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา ซึ่งมีปริมาณน้ำน้อยมากจนอาจจะเกิดวิกฤตเนื่องจากภาวะภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงนาน ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำสำรองที่มีอยู่ทั้งการผลิตน้ำประปา และน้ำที่ใช้ในการเกษตร
นายศุภชัยระบุว่า สถานการณ์ภัยแล้งพะเยาค่อนข้างวิกฤต เนื่องจากปริมาณน้ำในแหล่งกักเก็บมีน้อย และอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา และน้ำการเกษตรได้ ดังนั้น วัดรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้เตรียมพร้อมที่จะรับสถานการณ์ โดยเฉพาะในช่วงของฤดูแล้งที่จะมาถึงนี้ ถ้าหากฝนไม่ตกลงมาก็อาจจะทำให้กระทบต่อการผลิตน้ำประปาที่ใช้บริโภคได้
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องหาแหล่งน้ำสำรองหนุนน้ำต้นทุนที่มีอยู่ โดยการขุดเจาะน้ำบาดาล ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอำเภอต่างๆ ให้สำรวจแหล่งน้ำของตนเอง รวมถึงแหล่งน้ำบาดาล ซึ่งจังหวัดพะเยาได้ขอให้ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1 ลำปาง ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาสำรวจ เพื่อเร่งขุดเจาะน้ำบาดาลแก้ไขในภาวะฉุกเฉินก่อน
ขณะเดียวกัน ได้ให้ทางการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดพะเยาเร่งทำแผนการจ่ายน้ำประปาให้แก่ประชาชนเพื่อยืดระยะเวลาให้พ้นวิกฤตแล้ง ก่อนที่การขุดเจาะน้ำบาดาล รวมถึงแผนระยะยาวในการแก้วิกฤตแล้งจะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จังหวัดพะเยา พบว่ามีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้น้อยมาก โดยอ่างเก็บน้ำแม่ปืม อ.แม่ใจ สามารถกักเก็บน้ำได้ 43,000,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันมีน้ำอยู่ที่ 7.8 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 18.51, อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ กักเก็บน้ำได้ 37 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำอยู่ที่ 19.2 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 53.59
ขณะที่กว๊านพะเยาสามารถกักเก็บน้ำได้ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันเหลือน้ำอยู่เพียง 16.37 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 48.43
ขณะที่ปีที่ผ่านมาในแหล่งเก็บน้ำสำคัญของจังหวัดพะเยาทั้ง 3 แห่งนี้สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 100% แทบทุกแห่ง และมีตกมากถึง 1,600 มิลลิเมตร