ระยอง - นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก นำชาวประมงนับ 100 ยื่นหนังสือขอปิดอ่าวระยองฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ หลังเกิดเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบรั่วเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบสัตว์น้ำลดน้อยอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่หน้าศูนย์ราชการจังหวัดระยอง กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จังหวัดระยอง นำโดย นายสำออย รัตนวิจิตร นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเล็กจังหวัดระยอง นายกิติพงศ์ สมุลไพร ประธานกลุ่มประมงบ้านปากคั่นตะพง นายวรวุฒิ คงณรงค์ ประธานกลุ่มบางกะเฌอ พร้อมด้วยกลุ่มประมงเรือรบหลวงประแสร์ จำนวน 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือเรื่องความเดือดร้อนในอาชีพประมง
เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ส่งผลกระทบมลพิษทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเล และกระทบต่ออาชีพประมงทุกประเภท ทรัพยากรสัตว์น้ำทะเลลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ชาวประมงไม่สามารถทนต่อสภาพปัญหา จึงเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง เพื่อหาทางช่วยเหลือ
ประกอบกับกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กได้จัดทำประชาคมร่วมกัน และมีมติเห็นควรให้มีการปิดอ่าวระยองเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรอย่างเร่งด่วน พร้อมได้ยื่นเอกสารการทำประชาคมกรณีการปิดอ่าวระยองให้ทางสำนักงานประมง จังหวัดระยอง ได้รับทราบแนวทางของกลุ่มประมงที่ขอปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
นายสุวิน จิตรจันทึก หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดระยอง ได้ออกมารับหนังสือ และกล่าวว่า ก็เป็นที่ทราบกันว่าหลังเกิดเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบรั่ว แต่ในขณะนี้ทรัพยากรสัตว์น้ำก็เริ่มฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว แต่อาจจะไม่สมบูรณ์เต็มที่ หรืออาจจะยังไม่ตรงตามความประสงค์ของกลุ่มประมง เพราะฉะนั้นทางสมาคมก็มีความคิดเห็นอยากจะให้ปิดอ่าวปีละ 2-3 เดือน และได้มีการทำประชาคมในระดับของแต่ละกลุ่มไปแล้ว อยากให้ทางจังหวัดนำเสนอเรื่องปิดอ่าวเข้าที่ประชุม ซึ่งกระบวนการปิดอ่าวนั้นต่างกับกระบวนการขยายเขตพื้นที่ห้ามทำการประมง
จากการประชุมล่าสุด ทางจังหวัดได้มอบหมายให้ทางสมาคมฯ และกลุ่มประมงไปทำประชาคม มาก่อน และให้นำมาเสนอ ซึ่งทางประมงจังหวัดได้รับเรื่องการทำประชาคม ขณะนี้ทางประมงจังหวัดได้ทำเรื่องเสนอไปที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาฯ พิจารณาก่อน
ส่วนกรณีที่จะมีการประกาศปิดอ่าวนั้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลจะต้องนำข้อมูลการทำประชาคมปิดอ่าวไปสรุปผลการทดลองทางด้านวิชาการว่ามีความเหมาะสมที่จะปิดในช่วงเดือนไหน เพราะการปิดอ่าวนั้นต้องมีหลักฐานทางวิชาการมาอ้างอิงว่าความเหมาะสมของสัตว์น้ำบริเวณอ่าวระยอง กับสัตว์น้ำที่จะวางไข่ในช่วงเดือนไหน และจะมีความเจริญเติบโตในเดือนไหน หลังจากนั้น ก็จะประชาคมร่วมกับหน่วยงานอีกครั้ง
หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง กล่าวว่า วันนี้หลังผมรับเรื่องก็จะรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และจะมีการกำหนดวันประชุมเกี่ยวกับเรื่องปิดอ่าวให้ทราบภายหลัง สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มประมง เรียกร้องให้กำหนดวันประชุม แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็จะนั่งรอผู้ว่าราชการจังหวัด จนกว่าจะทราบความชัดเจนว่าเป็นวันที่เท่าไหร่ เนื่องจากหลายกลุ่มต้องเดินทางมาไกล และต้องเหมารถโดยสารมา สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาหลายครั้งแล้ว วันนี้จะต้องรู้ให้ได้ว่าจังหวัดจะนำเรื่องที่กลุ่มประมงพื้นบ้านมีการทำประชาคมเพื่อขอปิดอ่าวระยองเมื่อไรต่อไป