ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชลบุรี เป็น 1 ใน 4 จังหวัดนำร่อง ตามโครงการท่องเที่ยววิถีไทย ปลอดภัยทั่วทิศ สร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน
ตามที่ศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ ได้จัดการประชุมเพื่อรับทราบแนวทางบูรณาการปฏิบัติงานในพื้นที่ จังหวัดนำร่องการท่องเที่ยวตามโครงการ “ท่องเที่ยวทั่วไทย ปลอดภัยทั่วทิศ”
โดยมีพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดชลบุรี (บางแสน และพัทยา) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จังหวัดกระบี และจังหวัดภูเก็ต โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา สร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดที่รับผิดชอบให้เป็นพื้นที่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การอำนวยความสะดวก และบริการที่ดีในอันที่จะนำมาซึ่งความสุข สนุกเพลิดเพลิน และปลอดภัยต่อการท่องเที่ยวตามโครงการต่อไป
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ประเทศไทยต้องเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งมีการเปิดเสรีการบริการ ลงทุน และแรงงาน เนื่องจากภูมิศาสตร์ของประเทศไทยเหมาะแก่การลงทุนเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค ทำให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน และนักท่องเที่ยวจากอาเซียนเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว
ประกอบกับรัฐบาลได้มีนโยบายขับเคลื่อนในการสร้างรายได้จากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
สำหรับจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่งที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศเป็นอันดับต้นๆ โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ ชายหาดบางแสน และชายหาดพัทยา ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ จึงได้เตรียมความพร้อมในการรองรับการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้สร้างความพึงพอใจ และความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน การลดปัญหายาเสพติด คนเร่ร่อนจรจัด และขอทานในเมืองท่องเที่ยว การได้รับความเป็นธรรมไม่มีการเอารัดเอาเปรียบอันส่งผลถึงภาพลักษณ์ที่ดี
นอกจากนี้ จังหวัดชลบุรียังได้เชิญผู้ประกอบการ บุคลากรของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้ในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ให้สามารถช่วยเหลือได้อย่างถูกวิธี เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในแหล่งท่องเที่ยว และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนสร้างความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวของตน เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย