พิษณุโลก - แม่ทัพภาคที่ 3 โชว์เหรียญพระทองคำ “พระพุทธชินราช” ที่เปิดให้เช่าระดมทุนบูรณะ-พัฒนาพระราชวังจันทน์ พร้อมเผยราคาพุ่งจาก 39,999 เป็นองค์ละแสน ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคง 17 จังหวัดภาคเหนือ เปิด 3 แนวทางเคลียร์ปัญหา “รีสอร์ตเขาค้อ” ให้จบ จ่อยึดคืนเป็น “ที่ราชพัสดุ”
วันนี้ (4 ก.ย.) พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตกองทัพภาคที่ 3 ประจำปี 2558 ที่ห้องประชุมโรงแรมวังจันทน์ริเวอร์วิว อ.เมือง พิษณุโลก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และตัวแทนใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมประชุมพร้อมกับตัวแทนกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ ประมาณ 150 คน
ก่อนเข้าห้องประชุม พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้ทักทายกับบรรดาผู้สื่อข่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เตรียมขยับขึ้นเป็น “ที่ปรึกษา ทบ.” อัตราพลเอก พร้อมกับโชว์เหรียญทองคำ พระพุทธชินราช หมายเลข 99 ที่เพิ่งผ่านพิธีมหาจักรพรรดิพุทธาภิเษก รุ่น “อนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังจันทน์” ซึ่งราคาขยับจากราคาจอง 39,999 บาท เป็น 100,000 บาท
แม่ทัพภาคที่ 3 บอกเพียงว่า รายได้จากการเช่ากำลังนำไปก่อสร้างและปรับปรุงบูรณะพระราชวังจันทน์อย่างเร่งด่วน เพื่อพัฒนาโบราณสถานให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของเมืองพิษณุโลกต่อไป
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตกองทัพภาคที่ 3 นั้น ได้วางกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาความมั่นคงเฉพาะกรณี 5 ประเด็น คือ การย้ายหมู่บ้านน้ำแจ้งพัฒนา ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก, การแก้ไขปัญหาที่ดินบนเขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์, การแก้ไขปัญหาแก้ไขปัญหาในพื้นที่โครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำกินคีรีราช อ.พบพระ จ.ตาก, การแก้ไขปัญหาการขอใช้พื้นที่ป่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์, การดำเนินการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ 7 ลุ่มน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ปิง วัง ยม น่าน ป่าสัก แควน้อย และสะแกกรัง พร้อมแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคง และกำหนดแนวทางขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงในแต่ละพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเขาค้อที่มีการซื้อขายสิทธิ์/เช่าช่วง ที่ดินทำกินผิดเงื่อนไข รอส. และผิดกฎหมาย ทำเป็นสถานที่ตากอากาศ มีการดำเนินคดีเก่า 32 คดี , คดีบุกรุกใหม่ 56 คดี และยังไม่ได้ดำเนินคดี 195 ราย ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งคืนพื้นที่แปลงที่ 1-4 แก่กรมป่าไม้แล้ว
ทั้งนี้ มีแนวทางแก้ไขปัญหา คือ 1. บังคับใช้กฎหมายเคร่งคัดแก่ผู้บุกรุก เพิกถอนสิทธิ์ รอส.ที่ผิดเงื่อนไข 2. จัดระเบียบใหม่ โดยให้ผู้บุกรุก และ รอส.ที่ทำผิดเข้ามีส่วนร่วมและชดใช้ความเสียหาย รวมทั้งดำเนินการให้เป็นที่ราชพัสดุ 3. ดำเนินคดีต่อผู้บุกรุก ปรับปรุงข้อบังคับ รอส.ใหม่
