นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งตำรวจนครปฐมระดมกำลังกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ หลังพบมีการกักขังและใช้แรงงานต่างด้าวเยี่ยงทาส ขณะที่ ผบก.นครปฐม ตั้งนายตำรวจรักษาราชการแทน 5 เสือ “สภ.สามควายเผือก” ที่ถูกเด้งเข้ากรุ หลังแรงงานชาวลาวร้องขอความช่วยเหลือถูกผู้จัดการธนาคารกรุงไทย นครปฐม กักขังทารุณไม่จ่ายเงินเดือน พร้อมสนธิกำลัง 3 ฝ่ายตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่เข้ม
วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 470/2558 ลงวันที่ 24 ส.ค.2558 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจ 5 ราย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ประกอบด้วย
1.พ.ต.อ.สุนทร โชคอำนวย ผกก.สภ.สามควายเผือก
2.พ.ต.ท.ชัยรัตน์ บัวชม รอง ผกก.ป.สภ.สามควายเผือก
3.พ.ต.ท.พีรวุฒิ พีระวุฒิพันธุ์ รอง ผกก.สส.สภ.สามควายเผือก
4.พ.ต.ท.สัญญพงษ์ โชติธันยพัฒน์ สวป.สภ.สามควายเผือก
5.พ.ต.ต.ณัฐกฤษณ์ เผื่อนปฐม สว.สส.สภ.สามควายเผือก
ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.2558 เป็นต้นไป โดยให้ไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร.ก่อนเวลา 12.00 น. และให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาสั่งการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งดังกล่าวตามความจำเป็น และเหมาะสม
ขณะที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ที่ 484/2558 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน สภ.สามรควายเผือก ประกอบด้วย
1.พ.ต.อ.ธิษอนัญ แสงชัยพันธ์ ผกก.ฝอ.ภ.จว.นครปฐม รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สามรควายเผือก
2.พ.ต.ท.สุวิน กูลรัตน์กิติวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.โพรงมะเดื่อ รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สภ.สามควายเผือก
3.พ.ต.ท.วีระพัฒน์ เกตุภูษา สวป.สภ.โพรงมะเดื่อ รักษาราชการแทน สวป.สภ.สามควายเผือก
4.พ..ต.ต.สาโรจน์ ถิรโชตพงศา สว.ก.สส.ภ.จว.นครปฐม รักษาราชการแทน รอง ผกก.สส.สภ.สามควายเผือก
5.ร.ต.อ.ประมวล ข้อเพชร รอง สวป.สภ.สามควายเผือก รักษาราชการแทน สวป.สภ.สามควายเผือก
6.ร.ต.ท.พนา มณฑาสุวรรณ รอง สว.สส.สภ.สามควายเผือก รักษาราชการแทน สว.สส.สภ.สามควายเผือก
7.ร.ต.อ.ธนู พัวอุดมเจริญ รอง สวป.สภ.โพรงมะเดื่อ รักษาราชการแทน สวป.สภ.โพรงมะเดื่อ
ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.2558 เป็นเวลา 30 วัน โดยประเด็นการสั่งย้ายด่วนน่าจะมาจากสาเหตุที่มีการจับกุมผู้ประกอบการฟาร์มหมูที่มีการลักลอบการใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย และมีการกักขังบทารุณอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่มีการจ่ายเงินเดือนนานกว่า 3 เดือน จนมีแรงานหลบหนีออกไปจนถูกจับกุมแล้วขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนมีการบุกเข้าจับกุมในพื้นที่ สภ.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้เรียกประชุมด่วนผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้ผู้บังคับบัญชาในสังกัดจังหวัดนครปฐม มีการตรวจสอบเข้มในเรื่องดังกล่าว และมอบหมายให้ พ.ต.อ.รัตน ปาลจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม สั่งการเข้ม หลังจากเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย มีการจับกุม นายไชยเดช โสนุช ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขานครปฐม และนางยุพา โสนุช ภรรยาเจ้าของยุพาฟาร์มปฐม เลขที่ 140 หมู่ 9 ต.มาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมจับกุมแรงงานชาวลาวได้ 14 คน เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยมีแรงงานชาวลาวที่ถูกจับกุมในท้องที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ระบุว่า ถูกนายจ้างจับใส่กรงขังหลังเลิกงาน และอยู่อย่างแออัดเพื่อไม่ให้หลบหนี และทำร้ายร่างกายหากทำงานไม่ไหว จึงได้มีการขยายผลสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองเข้าทำการจับกุม และช่วยเหลือแรงงานออกมาได้ ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของท้องที่ สภ.สามควายเผือก โดยวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุม นายวีระ แซ่จัน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 4 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมด้วยคนงานลาว พม่าที่ลักลอบเข้าเมืองมาทำงานผิดกฎหมายอีก 13 คน หลังดีเอสไอได้มีการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ให้เข้ากวดขันในเรื่องของการค้าแรงงานโดยผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
ขณะที่ พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีการสั่งการให้มีการประชุมด่วนเชิงลับโดยให้นายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในสังกัดได้มีการนำข้อมูลต่างๆ และสั่งการให้มีการกวดขันอย่างหนักในเรื่องการใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ชาติชาย อ่อนน่วม เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก นายชัยภัค สุนทรหงส์ นายอำเภอเมืองนครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้นำกำลังสนธิระหว่างทหารจากกรมการสัตว์ทหารบก ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม อส.อำเภอเมืองนครปฐม ใช้มาตรา 44 แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด
ลงพื้นที่ตรวจเข้มตามฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงงานทำหมูแผ่น หมูหยอง หมูกรอบ กุนเชียง ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม แบบจู่โจมเพื่อตรวจสอบหากลุ่มผู้ประกอบการที่มีการลักลอบการใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการกดขี่กักขัง หรือทำร้ายร่างกายแรงงานต่างด้าว และการเข้าตรวจสอบสภาพที่พัก และการใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างละเอียด และมีการประชาสัมพันธ์กฎหมายเกี่ยวกับการใช้แรงงานที่ถูกต้องให้แก่ผู้ประกอบการด้วย โดยไม่พบการใช้แรงงานโดยผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังได้ส่งสายลับลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลในเชิงลึกอีกทางหนึ่ง เพื่อทำให้พื้นที่เป็นจุดที่ไม่มีปัญหาการลักลอบการใช้แรงงานโดยผิดกฎหมายต่อไปด้วย