นครปฐม - ตำรวจ สภ.กำแพงแสน ผนึกกำลังตำรวจเมืองนครปฐม สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองบุกเข้าทลายแหล่งกักขังแรงงานต่างด้าวหลังคนงานลาวหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ สุดอึ้งเจ้าของเป็นผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขานครปฐม จัดสถานที่ขังแรงงานแบบสัตว์สุดทรมาน เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหาหนัก “ค้ามนุษย์”
วันนี้ (22 ส.ค.) พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิติพจน์ พจนาคม ผกก.สภ.กำแพงแสน พ.ต.ท.สุธี วรรณสูตร รอง ผกป.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.พฤต จำรูญศาสตร์ รอง ผกก.สส.สภ.กำแพงแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามควายเผือก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากทหาร ร.29 พัน 3 นายประเสริฐ เอกนวพุฒิพันธุ์ นายอำเภอกำแพงแสน นายชัยภัค สุนทรหงส์ นายอำเภอเมืองนครปฐม นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเมืองนครปฐม และอำเภอกำแพงแสน บุกเข้าตรวจค้น “ยุพาฟาร์มปฐม” ตั้งอยู่เลขที่ 140 หมู่ 9 ต.มาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นของนายไชยเดช โสนุช อายุ 55 ปี ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขานครปฐม
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงพบสถานที่ดังกล่าวพบว่า เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ และสุกรขนาดพื้นที่กว่า 30 ไร่ โดยพบแรงงานต่างด้าวชาวลาวทั้งหมด 14 คน อายุระหว่าง 14-27 ปี และพบที่พักเป็นแบบมุงหลังคาใบจาก มีการทำห้องปิดทั้ง 3 ด้าน โดยด้านหน้ามีประตูลูกกรงเหล็กปิดล็อกอย่างแน่นหนา และมีห้องใหญ่ที่ปิดด้วยลูกกรงทั้ง 4 ด้านสำหรับให้คนงานที่ทำงานเข้าไปอยู่รวมกัน สภาพไม่ต่างจากคุก หรือกรงใส่สุนัข ทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้งต่อภาพที่ปรากฏ ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงแรงงานชาวลาวถึงกับแสดงความดีใจเมื่อได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือออกจากฟาร์มนรกสุดโหดแห่งนี้
สอบถามนายชานน แสงแก้ว อายุ 25 ปี คนงานชาวลาวบอกว่า ตนทำงานอยู่ในฟาร์มแห่งนี้ได้ไม่นาน แต่ในช่วงที่เข้ามาต้องพบกับสภาพความโหดร้ายของนายจ้างที่ให้ทำงานเลี้ยงไก่ และหมูตั้งแต่เช้าจนดึก หากไม่ทำก็จะถูกทำร้ายกระทืบ และทำร้ายร่างกายต่างๆ นานา สุดท้ายจึงทนไม่ได้ และหลบหนีออกมาจากฟาร์มก่อนจะเข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือเพื่อนๆ ออกจากขุมนรกแห่งนี้
“พวกผมทำงานกันหนักมาก เขาให้ทำงานแบบไม่สนใจว่าจะมีร่างกายทนไหวกันหรือไม่ พอเช้าขึ้นมาต้องออกมาทำงานแต่เช้ามืดจนถึงมืดค่ำ จากนั้นก็จะถูกให้เข้าไปนอนในห้องรวมใหญ่ที่ปิดลูกกรงทั้ง 4 ด้านโดยไม่ให้ใครออกมาได้ หากใครปวดท้องก็จะต้องเตรียมถุงไว้สำหรับถ่ายทั้งหนัก และเบา สภาพในนั้นทรมานมากจนทนไม่ไหวผมจึงต้องหนีออกมาหาคนให้มาช่วย” นายชานน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การบุกทลายฟาร์มแห่งนี้เป็นการสนธิกำลังของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองของทั้ง 2 อำเภอ คือ อ.นครปฐม กับ อ.กำแพงแสน หลังจากมีแรงงานต่างด้าวออกไปขอความช่วยเหลือจากคนงานต่างด้าวด้วยกันที่อยู่ในเขต อ.กำแพงแสน และมีการติดตามขยายผลมาจนพบต้นตอ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเจ้าของฟาร์มไปดำเนินคดีในข้อหาใช้แรงงานทาส กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ตั้งข้อหาค้ามนุษย์ ทารุณเด็ก และจะขยายผลต่อไป
ส่วนแรงงานต่างด้าวได้ส่งให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม มาทำประวัติคัดกรองก่อนดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
