xs
xsm
sm
md
lg

อำมหิต! มือฆ่าแล้วเผาศพสาวกลางสวนลำไยเชียงใหม่ ฆ่าเผาสาวอีกรายที่ระยอง(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำ จนท.พิสูจน์หลักฐานตรวจละเอียดโรงแรมกลางเมืองเชียงใหม่ คลี่คลายคดีพบศพสาวถูกยัดกระเป๋าเผาอำพรางในสวนลำไยสารภี เผยหลักฐานชี้ชัดเชื่อมโยงผู้ต้องหาฆ่าสาวอีกรายเผาซุกศพในไร่สับปะรดที่ระยอง



วันนี้ (22 ส.ค.) พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยคณะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเก็บหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด และห้องพักในโรงแรม ทั้งนี้ เพื่อคลี่คลายคดีพบศพสาวถูกฆ่ายัดกระเป๋าเผาทิ้งในสวนลำไยพื้นที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.58

หลังมีข้อมูลเชื่อได้ว่าผู้ตายน่าจะคือ น.ส.ลลิตา โชคชัชวาลย์ อายุ 25 ปี ชาวอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ซึ่งเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่เข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว พร้อมกับนายราชวัตร แก้วกรมรัตน์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 2 ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบ่งชี้ว่าศพที่ถูกฆ่าแล้วเผาน่าจะคือ น.ส.ลลิตา ซึ่งทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่พัทยา โดยจากหลักฐานทุกอย่างระบุว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะคือ นายราชวัตร ที่ถูกตำรวจพัทยาจับกุมในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ และให้การรับสารภาพว่าเคยก่อคดีฆ่าแล้วเผาที่ไร่สับปะรดในพื้นที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 11 ส.ค.58 ซึ่งศาลจังหวัดระยอง ได้ออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพตามหมายจับที่ 477/2558 ลงวันที่ 20 ส.ค.2558 จึงถูกแจ้งอายัดตัว และส่งเข้าคุมขังในเรือนจำจังหวัดชลบุรี

โดยในคดีนี้เบื้องต้นมีข้อมูลว่า นายราชวัตร และ น.ส.ลลิตา เพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ นายราชวัตร จะอ้างตัวเป็นเสี่ยใหญ่จากต่างประเทศมาเที่ยว และอยากได้ภรรยาคนไทย เลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาวทำงานบาร์เบียร์ หรือสถานบันเทิงที่ดูมีฐานะ และใส่ทอง โดยหลอกล่อ น.ส.ลลิตา ซึ่งปกติใส่ทองหนัก 4-5 บาท และมีเงินสดติดตัวเยอะจากการทำงาน ก่อนที่ทั้ง 2 คน จะขึ้นรถทัวร์จากพัทยา เมื่อวันที่ 4 ส.ค.58 มาถึงเชียงใหม่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.58 และเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ในวันที่ 5 ส.ค.58 ในช่วงสาย ซึ่งตอนมาที่โรงแรม นายราชวัตร ได้เช่ารถกระบะสีขาว 1 คัน มาจอดไว้ด้วย

ต่อมา ในวันที่ 6 ส.ค.58 ตอนก่อนเที่ยงที่เช็กเอาต์ นายราชวัตร ได้เดินลงมาคนเดียวพร้อมลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาแล้วแบกขึ้นหลังรถก่อนจะขับออกไป คาดว่าจะไปที่จุดพบศพในอำเภอสารภี

จากนั้น นายราชวัตร ได้กลับไปที่พัทยา แล้วยังได้ลวงสาวอื่นนำไปฆ่าแล้วเผาที่จังหวัดระยองอีกในวันที่ 11 ส.ค.58 ก่อนกลับมาพัทยา เพื่อจะล่อลวงคนอื่นอีก แต่ถูกตำรวจจับข้อหาฉ้อโกงทรัพย์เสียก่อน และมีการขยายผลจนทราบเรื่องราวทั้งหมด โดยคดีนี้เชื่อว่าเป็นคดีหวังต่อทรัพย์ เนื่องจากพบว่าคนร้ายได้โจรกรรมทรัพย์สินของ น.ส.ลลิตา ไปด้วยจำนวนมาก เช่น ทองคำ เงินสดที่ยังไม่ทราบจำนวน

ขณะที่คดีที่จังหวัดระยอง ก็พบว่า ก่อนทั้ง 2 คนหายไปด้วยกัน หญิงเคราะห์ร้ายรายนั้นเพิ่งไปเบิกเงินสดมา จำนวน 4 แสนบาท ซึ่งวิธีการฆ่าตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีเพศสัมพันธ์ แล้วบีบคอฆ่าให้ตายด้วยความรุนแรงผิดปกติ โดยมีความเป็นไปได้ที่คนร้ายอาจจะเป็นโรคจิต อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการประสานข้อมูลเพิ่มเติม และสอบสวนปากคำผู้ต้องหาให้ละเอียดอีกครั้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น