กาญจนบุรี - ชาวไทยในอำเภอสังขละบุรี พร้อมชาวมอญ และกะเหรี่ยง พร้อมใจขึ้นป้ายประณามมือระเบิดแยกราชประสงค์ เปรียบจิตใจไม่ใช่มนุษย์ ด้าน “ผบ.พล 9 กกล.สุรสีห์” สั่งหน่วย ฉก.ลาดหญ้า ส่งกำลังคุมเข้มแนวชายแดนไทย-พม่า ป้องผู้ก่อเหตุฉวยใช้ช่องทางหลบหนี
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (19 ส.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม บริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ชาวอำเภอสังขละบุรี ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่ห่างไกล แต่ประชาชนทุกบ้านทุกหลังคาเรือนก็ได้ติดตามข่าวสารทางทีวี และหนังสือพิมพ์อย่างใกล้ชิด ชาวอำเภอสังขละบุรี ที่มีอยู่หลายเชื้อชาติหลายศาสนา มีทั้งชาวไทย กะเหรี่ยง และมอญ ต่างรู้สึกตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก พวกเราถือว่าการกระทำของผู้ที่ก่อเหตุมีจิตใจที่ไม่ใช่มนุษย์ ชาวอำเภอสังขละบุรี จึงขอประณามผู้ที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
“พวกเราชาวอำเภอสังขละบุรี ทุกคนทุกเชื้อชาติ และทุกศาสนาขอแสดงความไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ในครั้งนี้ เราขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครที่กำลังปฏิบัติงาน ขอให้ทุกคนปลอดภัย และความสงบสุขจงกลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว และจะนำป้ายที่จัดทำขึ้นเพื่อประณามกลุ่มคนที่ก่อเหตุไปติดตั้งเอาไว้ตามจุดต่างๆ ให้ทุกคนได้เห็นอย่างเด่นชัดต่อไป”
“กองพล 9 ตรึงกำลังตรวจเข้มตามแนวชายแดนกาญจน์”
ด้าน พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พ.อ.สราวุธ ไชยสิทธิ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อมกำลังปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนตลอดระยะทาง 371 กิโลเมตร พร้อมทั้งมอบหมายให้ ร.อ.สามารถ ประสพผล ผบ.ควบคุมส่วน ลว.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ นำกำลังออกตรวจตราความเรียบร้อยตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น บริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ บริเวณด่านชายแดบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู
นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งบุคคลที่จะผ่านเข้า-ออก และบุคคลต้องสงสัยเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และเป็นการป้องกัน และป้องปรามผู้ที่ไม่หวังดีที่อาจจะสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ อีกทั้งยังสกัดกั้นการหลบหนีออกนอกประเทศของผู้ก่อเหตุ และผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งอาจจะใช้ช่องทางตามแนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีชายแดนติดกับประเทศพม่าในการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการในการปฏิบัติในครั้งนี้เป็นเพียงการป้องกันเท่านั้น จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่าได้ตื่นตระหนก หากไม่สะดวกในการเดินทางก็ขอให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าใจในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานด้วย
