เลย - “แม่หัวใจแกร่ง” ชาวเชียงคาน ทุ่มเททั้งชีวิตดูแลลูกชายเป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุ จยย.เมื่อ 14 ปีก่อน จนอาการดีขึ้น เผยพอมีรายได้จากรับงานฝีมือในโครงการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ มาทำที่บ้าน พอใช้จ่ายในครอบครัว
มีเสียงเล่าลือในสังคมชาว อ.เชียงคาน จ.เลย ว่า นางหอมไกร บุญภา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 6 บ้านตาดซ้อ ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน เป็นยอดคุณแม่เอาใจใส่ดูแลลูกชายพิการจากอุบัติเหตุมานานร่วมกว่า 10 ปี โดยไม่ย่อท้อ จนทำให้ลูกชายที่เป็นอัมพาตล้มหมอนนอนเสื่อ มีอาการดีขึ้นตามลำดับ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวดังกล่าว พบนางหอมไกร กำลังประคองลูกออกกำลังกายอยู่ที่หน้าบ้าน ทราบชื่อต่อมา คือ ชัยณรงค์ บุญภา อายุ 29 ปี ที่พิการทางสมอง และร่างกายซีกซ้ายเป็นอัมพาต แข้งขาและแขนลีบ แถมไม่มีแรง
โดยนางหอมไกร กล่าวว่า ตนพร้อมสามี และลูกชายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียง 3 คน ส่วนที่ไม่เห็นสามีอยู่บ้านเพราะนำวัวออกไปเลี้ยงกลางทุ่ง ตนซึ่งต้องคอยเฝ้าดูแลลูกชายอยู่ที่บ้านแทน ส่วนสาเหตุที่ลูกชายมีอาการแบบนี้ เนื่องมาจากเมื่อเกือบ 14 ปีที่แล้ว วันที่ 10 ธันวาคม 2543 ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ทำให้สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ต้องผ่าตัดสมอง
หลังจากนั้นมาก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องนอนในห้องไอซียูของโรงพยาบาลเลย 18 คืน หลังจากฟื้นขึ้นมาก็ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกกว่า 2 เดือน จนถึงปัจจุบันหลังจากกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ลูกชายช่วยตัวเองได้ไม่มากนัก พูดหรือสื่อสารแทบไม่ได้ เวลาเข้าห้องน้ำพ่อหรือแม่ต้องคอยพยุง และทำความสะอาดให้ทุกครั้ง
บางวันยังมีอาการชักเกร็ง ทุกวันนี้พ่อ หรือแม่ต้องคอยช่วยป้อนให้กินยาป้องกันการชักวันละ 1 เม็ด ในช่วงเช้าหลังอาหาร และอาจจะต้องกินยานี้ไปจนตลอดชีวิต
สำหรับตนอดีตเคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเขาแก้ว แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นแล้ว ต้องทุ่มเวลาดูแลลูกชาย ส่วนสามีก็เคยเป็นถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นแล้ว ฐานะทางบ้านไม่ค่อยสู้จะดีนัก
ทุกวันนี้มีอาชีพทำไร่ทำนา และเลี้ยงวัว รายได้ที่ได้รับมาในแต่ละวันก็ไม่แน่นอน ไม่เพียงพอต่อการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือน ที่สำคัญคือ นำเงินมาเลี้ยงดูลูกชายที่พิการ ส่วนนายชัยณรงค์ นั้นได้รับการช่วยเหลือเป็นเบี้ยยังชีพคนพิการเพียงเดือนละ 800 บาท จากทางเทศบาลตำบลเขาแก้ว
นางหอมไกร บอกอีกว่า ทุกวันนี้ได้รับการสนับสนุนทำอาชีพเสริม โดยรับงานฝีมือจากโครงการเทิดพระเกียรติในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่บ้านคกงิ้ว ต.ปากตม อ.เชียงคาน มาทำที่บ้านพร้อมกับคอยดูแลลูกชายไปด้วย หลังจากทำเสร็จแล้วก็จะส่งไปขายคืนให้แก่โครงการ และยังไปรับงานทอผ้า เย็บปักถักร้อยจากบ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำนาป่าหนาด ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน มาทำอยู่ที่บ้าน เพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้นด้วย
“ตนรัก และห่วงลูกชายคนเดียวคนนี้เป็นอย่างมาก หลังรู้ว่าลูกชายต้องกลายเป็นคนพิการอย่างนี้ก็แทบช็อก ทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อตั้งสติได้ก็บอกแก่ตัวเองเสมอมาว่าจะต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็ง จะอ่อนแอไม่ได้ และจะคอยอยู่ดูแลลูกชายคนนี้ให้หายดี หรือกลับมาช่วยตัวเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด แม้ว่าเวลาผ่านไปกี่ปี ตนก็จะดูแลลูกชายคนนี้ ถึงล้มก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่ จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด” นางหอมไกร พูดด้วยเสียงสั่นเครือ