ตรัง - เด็กวัย 10 ขวบ วิ่งสะดุดสายไฟที่เทศบาลนครตรังผูกติดกับต้นไม้หัวฟาดพื้นเลือดคั่งในสมอง จนต้องผ่าตัดสมองด่วน พ่อแม่โวยไร้การเหลียวแลจากผู้บริหาร หลังจากมีการร้องเรียนปัญหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และมีการรื้อสายไฟบางส่วนออกแล้ว
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายเสรี คีรีรักษ์ อายุ 54 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 46/4 ถ.ควนขนุน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 มิ.ย. ตนและภรรยา พร้อมลูกชายอีก 2 คน หลังกินข้าวเย็นเสร็จตั้งใจจะไปเดินเล่นบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง (หลังเดิม)เนื่องจากมีงานตลาดนัด โดยได้มีการจอดรถไว้ที่บริเวณด้านล่าง และจะเดินไปเพราะคนเยอะไม่มีที่จอดรถ แต่ปรากฏว่า ขณะที่ที่ตนกำลังเดินนำหน้า และมีลูก 2 คนวิ่งตามหลัง ทันใดนั้นลูกชายคนโตของตน คือ ด.ช.กฤตกานต์ คีรีรักษ์ อายุ 10 ขวบ เรียนชั้น ป.4 เกิดเดินไปสะดุดสายไฟที่ถูกผูกติดระหว่างต้นไม้กับขอบปูนซีเมนต์บริเวณหน้าศาลากลาง (ด้านล่าง) ล้มลงหัวฟาดพื้นอย่างแรง จนต้องนำตัวส่ง รพ. โดยด่วน
หลังจากตรวจอาการเบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ และตนและภรรยาก็ให้ลูกนอนหลับพักผ่อน แต่พอเวลาผ่านไปประมาณ 3-4 ชม. ลูกชายของตนตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมบอกว่ารู้สึกปวดหัว และขอยาแก้ปวดทาน แต่ภรรยาตนไม่อนุญาต แต่รีบนำตัวลูกส่ง รพ.อีกครั้ง ปรากฏว่า หมอส่งเข้าห้องฉุกเฉิน และเอกซเรย์ทันที พบว่า ลูกตนกะโหลกร้าว มีเลือกคั่งในสมองขนาด 80 ซีซี (เท่าลูกเทนนิส) ต้องผ่าตัดโดยด่วน
นายเสรี กล่าวว่า โชคดีครอบครัวตนพอมีเงินสำรอง และไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน โดยค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดพร้อมค่ารักษาพยาบาลคาดว่าหลายแสนบาท แต่ตนก็พร้อมจ่าย เพื่อแลกกับชีวิตลูก แต่ที่น่าเสียใจ คือ หลังจากเกิดเรื่อง ภรรยาตนคือ นางอรศรี คีรีรักษ์ ได้ส่งข้อความผ่านไปทางเฟซบุ๊กของนายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบ และขอให้มีการเอาสายไฟดังกล่าวออกเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็กคนอื่นๆ อีก ตนเห็นว่าข้อความถูกอ่านแต่ไม่ได้มีการตอบรับใดๆ คาดว่านายกฯ คงไม่ให้ความสำคัญต่อพวกตน ชีวิตลูกชายตนก็ไม่มีค่าต่อนายกเทศมนตรีคนนี้
จากนั้นตนก็เดินทางไปบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ที่จุดเกิดเหตุเพื่อดึงสายไฟออก แต่ตนก็ดึงไม่ออก และได้เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลนครตรัง ตั้งใจว่าจะไปขอพบนายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรี เพื่อบอกกล่าวเรื่องนี้ แต่ตนนั่งรอจนเกือบ 09.30 น. ตนก็ยังไม่เห็นมีใครมาทำงาน ตนก็เดินทางกลับเพื่อไปเฝ้าลูกชายตนที่ รพ.อีกครั้ง
และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อใดๆ จริงๆ แล้วหลังจากมีการแชร์เรื่องราวของลูกชายตนผ่านเฟซบุ๊ก ก็มีหลายคนมาเยี่ยม จนหมอต้องสั่งงดเยี่ยมเพราะลูกตนต้องการพักผ่อน ซึ่งตอนนี้ผ่าตัดสมองเรียบร้อยแล้ว อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว และสิ่งตนต้องการคือ การแสดงน้ำใจของผู้หลักผู้ใหญ่ที่อาจจะไม่ใช่เงินทองเสมอไป แต่เพียงการไปเยี่ยมเยียน การให้กำลังใจ หรืออะไรก็ตามที่แสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้เสียภาษีให้แก่เทศบาลฯ คนหนึ่ง ตนทำมาหากินสุจริต ไม่เคยข้องเกี่ยวต่อสิ่งผิดกฎหมาย ถ้าตนจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก็ทำได้ แต่ ณ ตอนนี้จิตใจของตนกับครอบครัวอยู่ที่ลูกชาย ไม่ได้คิดเรื่องอื่นๆ แต่ก็รู้สึกเสียใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตน เป็นแค่สิ่งไร้ค่าของเทศบาลนครตรังอย่างนั้นหรือ ซึ่งตนก็คงต้องฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ขอให้ลูกชายของตนเป็นคนสุดท้ายที่จะเจอกับเหตุการณ์ลักษณ์นี้ อย่าได้มีลูกใครเจอเหมือนกับลูกชายของตนอีกเลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการร้องเรียนปัญหาดังกล่าว นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง ก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และมีการรื้อสายไฟบางส่วนที่คาดว่าทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ออกแล้ว