xs
xsm
sm
md
lg

“ชาวหนองตากยา” ฮือขวางรถขยะนายทุนขุดบ่อลูกรังจากราชบุรีขณะลักลอบขนขยะเตรียมนำมาทิ้งที่กาญจน์ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ชาวหนองตากยา เมืองกาญจนบุรี รวมตัวขวางรถพ่วงบรรทุกขยะที่มาจากราชบุรีนานกว่า 6 ชั่วโมง ขณะเตรียมนำมาทิ้งในพื้นที่ของนายทุนที่ขออนุญาตทำโรงงานขุดบ่อลูกรัง แต่กลับลักลอบนำขยะมาทิ้งจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 5 ปี จนส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ปลัดอำเภอท่าม่วง พร้อม จนท.ทหาร ตำรวจจะเดินมาไกล่เกลี่ย พร้อมสั่งให้คนขับนำขยะกลับราชบุรี พร้อมเตรียมประชุมใหญ่พรุ่งนี้ ด้าน จนท.ป่าไม้ ชงเรื่องให้ที่ดินอำเภอท่าม่วง ตรวจสอบที่ดินให้ถูกต้อง หลังวัดพิกัดได้ 12 จุด เนื้อที่ 40 กว่าไร่


จากกรณีชาวบ้านหมู่ 1, 4, 7, 8, 12 และหมู่ 14 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กว่า 200 คน รวมตัวประท้วง และนำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ขุดตักดินลูกรัง หิน ทราย ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ที่มีนายทุนชาวจังหวัดราชบุรี เป็นเจ้าของ แต่พื้นที่ดังกล่าวกลับนำขยะจำนวนมหาศาลมาทิ้งลักษณะฝังกลบ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านทั้งหมดเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือใน 3 ประเด็น คือ 1.ชาวบ้านต้องการให้เปิดเวทีแสดงความคิดเห็น 2.ขอให้หยุดการนำขยะมาทิ้งโดยเด็ดขาด 3.ทางบริษัทที่นำขยะมาทิ้งต้องทำการปรับปรุงบูรณะพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้กลับมาดังเดิม ในขณะที่ชาวบ้านรวมตัวกัน ร.ท.ดำรง ปักกาเวสูง ผบ.ชุดควบคุม ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมกำลังได้เดินทางมาดูแลความสงบ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น

ต่อมา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (4 ส.ค.) นายเฉลิม สุขเจริญ และนายชัยยศ เฉียมวิเชียร ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้นำชาวบ้านกว่า 100 คน เดินทางไปรวมตัวที่บริเวณถนนสายบ้านหนองตาช่วง-คอเขา หมู่ 4 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังทราบว่า จะมีรถ 10 ล้อ และรถพ่วง รวม 2 คัน ขนย้ายขยะมาจาก จ.ราชบุรี นำมาทิ้งฝังกลบในเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ติดกับภูเขาที่กำลังมีปัญหาส่งกลิ่นเหม็นทำให้ประชาชนเดือดร้อน

จนกระทั่งพบมีคนขับรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกขยะมาเต็มทั้งพ่วงตัวแม่ และพ่วงตัวลูก โดยใช้ผ้าใบคลุมมาอย่างมิดชิด นอกจากนี้ ยังมีรถ 10 ล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขับตามอีก 1 คัน ชาวบ้านจึงขวางทางไม่ยอมให้ขับผ่าน คนขับรถทั้ง 2 คน จึงจอด และลงมาจากรถ ชาวบ้านได้เปิดผ้าใบที่พ่วงตัวลูกออกมาดูเป็นขยะได้ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ โดยคนขับรถทั้ง 2 คัน บอกว่ารับจ้างขนขยะทั้งหมดมาจาก จ.ราชบุรี โดยได้ค่าจ้างขับเที่ยวละ 200 บาทและ 500 บาทตามลำดับ สำหรับรถบรรทุก 10 ล้อ มีขยะอยู่ประมาณ 10 ตัน ไม่รวมน้ำหนักตัวรถ ส่วนรถพ่วงมีขยะทั้งหมดประมาณ 25 ตัน ไม่รวมน้ำหนักรถ

โดยระหว่างที่ชาวบ้านช่วยกันขวางรถอยู่นั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ตำรวจ สภ.สำรอง เดินทางมา รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้วย และระหว่างนั้นมีชายฉกรรจ์ 1 คน เดินทางมาพบพร้อมกับเจรจากับกลุ่มชาวบ้านเพื่อขอให้นำขยะไปทิ้ง แต่ชาวบ้านทั้งหมดไม่ยินยอมจนเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้นมา แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น เนื่องจากมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำชายคนดังกล่าวออกไปจากบริเวณดังกล่าว

ขณะที่น้ำเสียที่หยดไหลลงมาจากรถลงสู่ถนนส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ จนชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ทนไม่ไหวต้องรีบไปหาผ้ามาปิดจมูกเอาไว้ จนเวลาผ่านไปประมาณ 6 ชั่วโมง ชาวบ้านก็ยังไม่ยอมแยกย้ายกันไปไหน ตรงกันข้ามกลับมีชาวบ้านเดินทางมาร่วมสมทบกันเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

ต่อมา เวลาประมาณ 14.00 น.นายนรภัทร รัตนวรายุทธ ปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอท่าม่วง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เลี้ยงชีพ ผกก.สภ.สำรอง ร.ท.ดำรง ปักกาเวสูง ผบ.ชุดควบคุม ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมคณะเจ้าหน้าทีจำนวนหนึ่งเดินทางมาพบชาวบ้านเพื่อพูดคุยเจรจา โดยใช้เวลาในการเจรจาประมาณ 30 นาที จึงได้ข้อสรุปพร้อมกัน โดยเจ้าหน้าที่ให้คนขับรถขนขยะทั้ง 2 คัน นำกลับไปที่ จ.ราชบุรีตามเดิม สร้างความพอใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก และในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอท่าม่วง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งผู้ประกอบการบ่อขยะจะมาเจรจาหาทางออกร่วมกัน ซึ่ง นายจำรัส กังน้อย ได้เชิญอัยการด้านสิ่งแวดล้อมมาร่วมรับฟังปัญหาด้วย

ด้าน นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า จากการที่ นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอท่าม่วง พร้อมด้วย พ.ท.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เลี้ยงชีพ ผกก.สภ.สำรอง พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธุ์ สว.กก.5.บก.ปทส. นายณรงค์ บุญรักษา ผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 นายบรรพต พุ่มน้ำเย็น หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว) นายน้อม บุญปองหา รองนายก อบต.หนองตากยา พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันตรวจสอบบริเวณพื้นที่เชิงเขาเนื้อที่ 80 ไร่ ของนายศักดิ์ชัย ไวคกุล และนายณรงค์ชัย บุญเกลี้ยง ที่ใช้สำหรับฝังกลบขยะเมื่อวันที่ 3 ส.ค.58 ที่ผ่านมา

ผลการตรวจพบพื้นที่ถูกขุด และนำขยะมากลบฝังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวติดกับภูเขา คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสำเนาเอกสารที่ดินที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองตากยา นำมาแสดงพบว่า พื้นที่มีการขุดกลบฝังขยะมีการขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยมีสำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ออกโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตำแหน่งที่ดิน ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ลงวันที่ 18 ต.ค.2550 เลขที่ 1785 เล่ม 18 ข.หน้า 35 เลขที่ดิน 42 หมายเลข 4936 iv แผ่นที่ 171 ชื่อนางผุ่ง ตันมันทอง บ้านเลขที่ 69/3 หมู่ 7 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จำนวนเนื้อที่ 80-1-80 ไร่ มาใช้ในการขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพดังกล่าว

คณะเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือหาค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียม (GPS) DAYUM 1984 บริเวณที่มีการขุด และนำขยะมาฝังกลบ ได้ค่าพิกัดจำนวน 12 จุด คำนวณเนื้อที่ตามพิกัดได้เนื้อที่ 40-2-67 ไร่ คณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า จากการตรวจสอบเอกสารน่าเชื่อถือได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารที่ดินตรงตามพื้นที่จริง แต่เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน จึงเห็นควรนำค่าพิกัดการตรวจสอบเบื้องต้นส่งให้สำนักงานที่ดินอำเภอท่าม่วงดำเนินการตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง

หากผลการสำรวจของเจ้าหน้าที่ที่ดินออกมาพบว่า ที่ดินจำนวน 40-2-67 ไร่ อยู่ในแปลงที่ดิน จำนวน 80-1-80 ไร่ ถือว่าถูกต้อง แต่หากพบว่าอยู่นอกเขตที่ดิน จำนวน 80-1-80 ไร่ ผู้ประกอบการจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในเบื้องต้น ตนได้รายงานผลปฏิบัติงานให้นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ อธิบดีกรมป่าไม้ทราบแล้ว









กำลังโหลดความคิดเห็น