กาญจนบุรี - วุ่นอีกรอบ! จนท.ป่าไม้นำหมายค้นเข้ายึดหมีควาย 6 ตัว จากวัดป่าหลวงตามหาบัว อ.ไทรโยค แต่ขนออกไม่พ้นประตูวัด เหตุเจ้าอาวาสนำพระ-เณรร่วม 100 รูป รวมทั้งพนักงานไทย-เทศนั่งขวาง แม้อ่านหมายศาลให้ฟังยังไม่วายเกิดชุลมุน โดนหิ้วส่งสภ.ไทรโยค 2 ราย เช้าวันนี้(3 เม.ย.)เจรจาอีกรอบ
วานนี้(2 เม.ย.)นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผู้อำนวยการส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทน์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยสพ.ญ.ศิรินทิพย์ เข็มทอง สัตวแพทย์ประจำสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และพ.ต.ท.วัตรไชย รอดไหม รองผกก.สส.สภ.ไทรโยค ร.ต.กล้า แหวนเครือ นายทหารชุดควบคุมกรมทหารราบที่ 29 กองพลทหาราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 136 (ไทรโยค) เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มค. 289/2558 ลงวันที่ 2 เม.ย. 58 ไปที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อยึดหมีควาย 6 ตัว ที่ถูกขังอยู่ในกรงขนาดใหญ่
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เดิมทีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบไมโครชิปเสือของกลางที่มีอยู่ 146 ตัว เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับไม่โครชิปของเสือ 3 ตัว ที่มีข่าวว่าถูกขโมยออกไปจากวัดเมื่อหลายวันก่อน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของวัดเท่าที่ควร ซึ่งวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้เข้ามาขอตรวจสอบไมโครชิปของเสียอีกครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะทางวัดไม่ยอมส่งคนมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
ซึ่งขณะกำลังเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่พบกรงเหล็กขนาดใหญ่ จึงเข้าไปตรวจสอบพบหมีควายหรือหมีดำ สัตว์ป่าคุ้มครองตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 จำนวน 6 ตัว ดังนั้นวันนี้จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเข้ามาตรวจสอบหมีที่พบ และจากการนำบัญชีสัตว์ป่าของกลาง ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เคยฝากให้วัดเลี้ยงดู ก็พบว่าไม่มีหมีอยู่ในบัญชีของกลาง อีกทั้งทางวัดไม่มีเอกสารการครอบครองมาแสดง จึงต้องทำการตรวจยึด พร้อมนำหมีทั้ง 6 ตัวไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ด้านนายบรรพต เปิดเผยว่า ขั้นตอนจะนำหมีออกจากกรงต้องใช้วิธีวางยาสลบ ซึ่งจะทำให้หมีสลบภายในเวลา 15 นาที และจะฟื้นภายใน 15 นาทีเช่นกัน ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่จะต้องรีบนำหมีเข้ากรงที่เตรียมไว้ให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ได้วางยาสลบหมีควายทั้ง 6 ตัวแล้วเสร็จ และได้นำหมีเข้ากรงขึ้นรถบรรทุกของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์บางละมุงเรียบร้อย ซึ่งต้องขนย้ายหมีทั้งหมดออกนอกเขตวัดก่อนเวลา 18.00 น. ตามที่หมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี กำหนดเวลาเอาไว้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เคลื่อนขบวนรถบรรทุกหมีมาถึงประตูทางออกเวลาประมาณ 17.00 น. ปรากฏว่าพระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส พร้อมพระสงฆ์ สามเณรกว่า 100 รูป รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเสือทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาปิดล้อมขบวนรถของคณะเจ้าหน้าที่เอาไว้
ซึ่งหลวงตาจันทร์ได้นั่งและยืนขวางรถบรรทุกหมี พร้อมตะโกนประกาศขอยอมตายพร้อมกับหมีทั้ง 6 ตัว ขณะเดียวกันพนักงานและเจ้าหน้าที่ของวัดทั้งไทยและต่างชาติ ต่างร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ส่วนพนักงานผู้ชายจำนวนหนึ่งต่างก็มีปากเสียงกับคณะเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง พร้อมทั้งขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ลดละ ทำให้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย และเกิดกระทบกระทั่งกัน แม้คณะเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายเหตุผล แต่ทุกคนก็ไม่ใส่ใจ
เวลาผ่านไปกว่า 30 นาที นายชาติชายจึงตัดสินใจอ่านหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรีให้ทุกคน รวมทั้งหลวงตาจันทร์ แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัดยังไม่ยินยอม นอกจากนี้ชายฉกรรจ์ 2 คนได้เกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายให้ชายทั้ง 2 คนเข้าใจว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการขัดหมายศาล แต่ทั้งสองก็ไม่สนใจ ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทราบชื่อต่อมา คือ นายสมเจตน์ จันทร์ดี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/7 หมู่ 15 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และนายอำนาจ จันทร์ที อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/3 หมู่ 2 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ต่อมา เวลาประมาณ 17.45 น. หลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส ได้นำพระสงฆ์พร้อมสามเณร มานั่งเรียงแถวขวางรถบรรทุกหมีทั้ง 6 ตัวเอาได้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมากั้นด้านหน้า ย้ายโครงเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กันมาตั้งขวางเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง ขณะเดียวกันคณะสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯ คอยดูแลหมีทั้ง 6 ตัว เพราะอากาศช่วงดังกล่าวค่อนข้างร้อนอบอ้าว เกรงว่าหมีอาจจะเกิดอาการหงุดหงิด และส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะหมีควายเพศผู้อายุประมาณ 7-8 ปี มีน้ำหนักถึง 450 กิโลกรัม
ต่อมา นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับรายงานเหตุการณ์ จึงมอบหมายให้นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายณรงค์ ไพศาลทักษิณ ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอไทรโยค พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ไปที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อประชุมหาทางออกร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจยึดหมีควาย โดยมีพ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ เป็นตัวแทนเข้าประชุมหารือ ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ได้ไปนิมนต์หลวงตาจันทร์ ที่นั่งขวางรถบรรทุกหมี มาพูดคุยตกลงเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่หลวงตาจันทร์ไม่ยอมมาตามที่เจ้าหน้าที่นิมนต์ คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงเดินเข้าห้องประชุมหารือกันอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
นายบุญญะพัฒน์ กล่าวภายหลังเพียงสั้นๆว่า ทางเจ้าอาวาสไม่ยินยอม เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านสพ.ญ.สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง กล่าวว่า คณะสัตวแพทย์เป็นห่วงสุขภาพของหมีทุกตัวที่อยู่ในกรง ซึ่งก่อนที่จะนำหมีเข้ากรง ได้ทำการวางยาสลบไปแล้วครั้งหนึ่ง หากนำหมีกลับไปไว้ที่วัด คงจะไม่สามารถทำได้ เพราะจะเกิดอันตรายต่อคนและสัตว์ เนื่องจากหมีเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย อาจจะทำร้ายคนได้ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน และหากให้ยาสลบอีกครั้งก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ จะไม่มีการให้ยาสลบเป็นครั้งที่สองติดต่อกันเช่นนี้ มีทางเดียวที่จะให้หมีปลอดภัย คือ ต้องรีบขนย้ายหมีทั้งหมดไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี ให้เร็วที่สุด หรือสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน หรือเขาประทับช้างที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะได้เฝ้าดูสถานการณ์ไปจนกว่าจะถึงเช้าวันที่ 3 เม.ย.
