พบปลากะพง-ปลาเก๋าตายเกลื่อนคลองสน เร่งตรวจพิสูจน์สาเหตุ

ตราด - ปลากะพง ปลาเก๋า ตายเกลื่อนคลองสน ตำบลแหลมกลัด เบื้องต้นไม่รู้สาเหตุแน่ชัด แต่พบบริเวณชายทะเลใกล้จุดเกิดเหตุมีของเหลวสีเหลืองลอยเต็มหาด ต้องรอส่งไปตรวจพิสูจน์

วันนี้ (4 ส.ค.) ที่บริเวณคลองสน บ้านสะพานหิน หมู่ 5 ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ได้มีชาวบ้านร้องเรียนผ่าน นายบุญโน๊ต ภู่มณี ผู้ใหญ่บ้านว่า มีปลาในคลองสนตายเกลื่อนลำคลอง และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว หลังรับแจ้ง นายบุญโน๊ต จึงไปตรวจสอบในพื้นที่ จุดแรกที่บริเวณที่สาธารณะบ้านสะพานหิน พบปลาตายเกลื่อนคลองที่มีสภาพปิด โดยชาวบ้านที่ืำงานก่อสร้างบ้านอยู่บริเวณนั้นบอกว่า พบปลาตายมานานกว่า 24 ชม. จนเริ่มส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว โดยมีระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ซึ่งไม่ใช่ปลาอย่างเดียว แต่ยังมีกุ้ง และปูดำ รวมทั้งสัตว์น้ำในคลองก็ตายทั้งหมด ซึ่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ยังไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุใด

จากนั้น นายบุญโน๊ต ได้เดินทางไปยังต้นคลองสน ที่มีสะพานสูง และมีบ้านเรือนของชาวประมงอาศัยทำมาหากินอยู่ 3-4 หลัง และพบว่า ปลาในกระชัง ประกอบด้วย ปลาเก๋า และปลากะพง ตายกว่า 30 ตัวด้วย โดยนายประสงค์ ประสงค์รัตน์ อายุ 61 ปี ชาวบ้านที่เลี้ยงปลาในกระชังบอกว่า น้ำทะเลที่เข้ามาในคลองมีสีน้ำตาลแดงทำให้ปลาตายทั้งหมด ซึ่งน้ำได้เริ่มจาง และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนแล้ว ส่วนปลาที่เลี้ยงไว้ได้นำมาแร่เพื่อตากเป็นปลาแห้งไว้กินภายหลัง ซึ่งปลาเหล่านี้เลี้ยงไว้ใต้สะพาน เป็นปลากะพง 6 ตัวๆ ละ 700 กรัม และปลาเก๋า 20 ตัว น้ำหนักเกือบ 1 กก./ตัว รวมมูลค่ากว่า 2-3 หมื่นบาท

ขณะที่บริเวณทะเลพบว่า มีคราบของเหลวสีเหลืองถูกคลื่นซัดเข้ามาอยู่ริมชายหาดยาวกว่า 200 เมตร ซึ่งของเหลวสีเหลืองเหล่านี้เห็นอยู่ในทะเลเป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร และมาจากคลอง ซึ่งไม่ทราบเป็นปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบูมหรือไม่ แต่ที่บริเวณนี้ไม่เคยเกิดขึ้น

นายบุญโน๊ต กล่าวว่า สาเหตุที่ปลาตายนั้นไม่สามารถระบุเหตุว่าเกิดจากสาเหตุใดแน่ เพราะต้องนำน้ำไปพิสูจน์ แต่สิ่งที่ชาวบ้านบอกว่า มีการทิ้งน้ำจากบ่อกุ้งบริเวณนี้นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะว่ามีบ่อกุ้งหลายแห่งที่เลิกทำไปแล้ว ส่วนที่ทำอยู่ก็มีแหล่งพักน้ำเสีย อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่ามีการปล่อยน้ำจากบ่อกุ้งของนายตำรวจผู้หนึ่งของ จ.ตราด ที่มีพื้นที่ติดคลอง แต่ไม่กล้าระบุว่าใคร และบริเวณผิวน้ำในคลองยังมีคราบสีเหลืองลอยอยู่บนผิวน้ำจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องนำน้ำไปตรวจสอบถึงจะทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ปลาตายในครั้งนี้หรือไม่