ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 รวบนักแข่งรถแรลลี่ชิงแชมป์ประเทศไทยแสบ พร้อมพวกรวม 3 คน หลอกเช่ารถแล้วเชิดหนี เสียหายร่วม 50 คัน มูลค่านับ 100 ล้าน เผยหลอกให้ซื้อรถมาให้เช่าในราคาแพงก่อนเชิดหนี ด้านผู้เสียหายรุมชี้ตัว พร้อมยืนหนังสือคัดค้านการประกันตัว จี้ตำรวจเร่งติดตามรถของกลาง และค่าเสียหาย
วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.ปกรณ์ เสริมสุวรรณ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 (ผบก.สส.ภ.3) พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งหลอกลวงเช่ารถยนต์แล้วเชิดหนี ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายบัญชา ทองก้อน อายุ 38 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ อดีตนักแข่งรถยนต์แรลลี่ชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2008 นายเฉลิมเกียรติ หรือน็อต ธนธรณ์มนตรี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ น.ส.ฐานัชชา หรือตู๋ สรเสริฐ ชาว จ.สิงห์บุรี
ขณะนำตัวมาแถลงข่าวมีผู้เสียหายกว่า 50 คน เดินทางมาดูตัว พร้อมด่าทอ สาปแช่ง และยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามรถของกลางกลับมา และให้ผู้ต้องหารับผิดชอบในการจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดโดยขู่ว่าหากให้ประกันตัวจะฆ่าตัวตาย ก่อนมอบกระเช้าของขวัญขอบคุณตำรวจที่ตามจับกุมมาได้
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนมากจากการถูกหลอกให้เช่าซื้อรถยนต์มาเพื่อใช้ในงานโครงการสัมปทานท่อก๊าซที่กำลังก่อสร้างในพื้นที่ จ.นครราชสีมาอยู่ในขณะนี้ แล้วไม่ได้รับค่าเช่าตามที่ตกลงกัน ส่งผลให้ผู้เสียหายได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อหน่วยงานต่างๆ แต่ยังไม่คืบหน้า จากนั้นจึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทราบว่า นายเฉลิมเกียรติ หรือน็อต ธนธรณ์มนตรี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ จ.111/2558 ลงวันที่ 4 มิ.ย.2558 “ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ได้เคยเดินทางไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน จ.นครราชสีมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนหาข่าว และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทราบว่า นายเฉลิมเกียรติ หรือน็อต มาทำงานที่ร้านอาหารดังกล่าว และมีความสนิทสนมกับเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมือง อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงเดินทางไปที่ร้านดังกล่าว และพบตัวนายเฉลิมเกียรติ จึงแสดงตัวจับกุม และขยายผล ซึ่งนายเฉลิมเกียรติ ให้ข้อมูลว่าเคยทำงานกับ นายบัญชา ทองก้อน เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมตัวได้ ก่อนขยายผลเพิ่มเติมจับกุม น.ส.ฐานัชชา ได้ในเวลาต่อมา
นายบัญชา รับสารภาพว่า เป็นนายหน้าติดต่อรถจากเหยื่อมาให้บริษัท 3 สหายทรานสปอร์ต จำกัด เพื่อนำรถมาให้เช่า โดยตนจะตระเวนหาเหยื่อด้วยการหลอกให้เช่าซื้อรถมาเพื่อนำมาให้บริษัทฯ เช่าใช้รถโดยให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น ค่าส่งงวดรถ 12,000 บาท แต่ทางบริษัทฯ ให้ค่าเช่า 20,000 บาท เป็นต้น ซึ่งตนได้ค่านายหน้าคันละ 5,000 บาท ทำมาแล้วมากกว่า 42 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถตู้ รถยนต์นั่งอดนกประสงค์ และรถยนต์กระบะ มูลค่านับ 100 ล้านบาท แต่ไม่ทราบว่าทางบริษัทฯ จะนำรถไปทำอะไรต่อ ซึ่งตนได้ให้ข้อมูลทั้งหมดต่อเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว
ส่วน นายเฉลิมเกียรติ หรือน็อต มีหน้าที่ในการขับรถของเหยื่อไปส่งให้บริษัทตามจุดที่นัดหมาย ได้ค่าจ้างคันละ 2,000 บาท ส่วน น.ส.ฐานัชชา ทำหน้าที่เป็นโอเปอเรเตอร์ในการพูดจาหว่านล้อมโน้มน้าวเหยื่อ หรือบ่ายเบี่ยงเมื่อถูกทวงถามถึงค่าเช่า หรือติดตามรถที่ให้เช่ามา
จากการตรวจสอบประวัติทราบว่า นายบัญชา มีประวัติคดีอาญา 14 คดี จับกุมได้ 3 คดี จับไม่ได้ 11 คดี และมีหมายจับ 4 หมาย คือ ข้อหาฉ้อโกงประชาชนและยักยอกทรัพย์ 3 คดี และหมายจับเพื่อบังคับตามคำพิพากษาอีก 1 หมายจับ นายเฉลิมเกียรติ มี 1 หมายจับ และ น.ส.ฐานัชชา มี 1 หมายจับในคดีฉ้อโกงฯ ซึ่งมีค่ารางวัลนำจับ 30,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนตามท้องที่เพื่อดำเนินคดีต่อไป