ตราด - จังหวัดตราด จัดงานสัปดาห์ “อาสาฬหบูชา และเข้าพรรษาอาเซียน สานสัมพันธ์ในมิติพระพุทธศาสนา ไทย- กัมพูชา” ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ช่วงหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษาพบคึกคักไม่แพ้ที่อื่นๆ
วันนี้ (31 ก.ค.) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดโครงการงานสัปดาห์เทศกาล “อาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาอาเซียน สานสัมพันธไมตรีในมิติพระพุทธศาสนา” ระหว่างไทย-กัมพูชา ของจังหวัดตราด และจังหวัดพระตะบอง (อำเภอสำรูด) ประจำปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจังหวัดตราด โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตราด ได้ดำเนินการจัดขึ้นที่ศาลาการเปรียญวัดนนทรีย์ ตำบลนนทรีย์ อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2558
โดยมี นายเอิน สอริด นายอำเภอสำรูด นางดวงจันทร์ สุขวิไล วัฒนธรรมจังหวัดตราด นายสมชาย สิงห์กุล นายอำเภอบ่อไร่ ร.ต.ท.คมพัชญุ์ ทักษิณ นายก อบต.นนทรีย์ ข้าราชการทหาร ตำรวจ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนชาวตราด และชาวอำเภอสำรูด จังหวัดพระตะบอง เข้าร่วม และได้มีการนิมนต์คณะสงฆ์จากอำเภอสำรูด จังหวัดพระตะบอง ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และแสดงพระธรรมเทศนา
ในโอกาสเดียวกันนี้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตราด ยังได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับอาเซียน พร้อมนิทรรศการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแสดงให้พุทธศาสนิกชนทั้ง 2 จังหวัด ที่มาร่วมทำบุญได้เรียนรู้อีกด้วย
แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งคึกคักรับหยุดยาว
ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษาของจังหวัดตราด พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก โดยที่บริเวณชายแดนบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ มีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับบ้านเข้ามาหาซื้อสินค้าในตลาดหาดเล็ก และตลาดเช้าชายแดนเป็นจำนวนมาก
นายสมเดช เพ็งบํารุง พ่อค้าขายอาหารเสื้อผ้า กล่าวว่า แม้ช่วงนี้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีจนทำให้ขายสินค้าไม่ได้ แต่ช่วงวันหยุด หรือช่วงเทศกาลต่างๆ จะพบว่า มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อเลือกซื้อสินค้าจากไทย
ส่วนการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดสำคัญของอำเภอคลองใหญ่ ทั้งหาดบานชื่น และหาดราชการุณย์ ก็พบว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดตราด และต่างจังหวัดพากันลงเล่นน้ำจำนวนมาก ทำให้โรงแรม และรีสอร์ตมียอดเข้าพักเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
ขณะที่ที่เกาะช้าง มีรายงานว่านักท่องเที่ยวพากันเดินทางจากท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ และท่าเรือเซ็นต์เตอร์พอยท์เฟอร์รี่ เพื่อนำรถยนต์เข้าไปยังเกาะช้างกว่า 1,000 คัน ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคัก หลังจากซบเซาเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซัน