ศูนย์ข่าวศรีราชา - ถกสัมมนาและ Business Matching ธุรกิจไทย-จีน ฉลองครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน พร้อมตั้งโต๊ะประกบคู่เจรจราแลกเปลี่ยนแนวทางธุรกิจ ชี้ GDP ไทยครึ่งปี 58 โตต่อเนื่อง ภาครัฐหนุนเมกะโปรเจกต์ 5 โครงการยักษ์ ทำเตะตานักลงทุน
วันนี้ (28 ก.ค.) นายบัณฑิต ศิริตันหยง รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ กล่าวให้การต้อนรับ นายหลู จิ้น ชิง นายกสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมจีน ในโอกาสนำนักธุรกิจจากประเทศจีนเข้าร่วมประชุมสัมมนาและ Business Matching ธุรกิจไทย-จีน ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบ 40 ปี ที่จัดขึ้นที่โรงแรมดุสิตธานี เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
โดยมี นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย ประธานกรรมการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม สภาเมืองพัทยา ร่วมให้การต้อนรับ
กิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ โดยนำเอาผู้ประกอบการธุรกิจประเภทต่างๆ จากประเทศจีน ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง อาหาร-เครื่องดื่มและขนม การเกษตร การศึกษา พลังงานและสิ่งแวดล้อม กลุ่มการท่องเที่ยว การถ่ายภาพและธุรกิจไฟแนนซ์ เข้าร่วมพบปะพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการต่อยอดธุรกิจร่วมกัน อันจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งทางภาคธุรกิจร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศต่อไป
นายพินิจ จารุสมบัติ กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายอันดีที่นักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศได้เจอกัน นายหลู จิ้น ชิง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของเมืองพัทยา เหมือนนายหลู จิ้น ชิง ได้กลับมาบ้านหลังที่ 2 ซึ่งต้องทำหน้าที่พลเมืองที่ดี พร้อมพูดติดตลกว่า พลเมืองที่ดีต้องเอานักธุรกิจกระเป๋าหนักจากจีนมาเที่ยวพัทยาใช้คนละแสนหยวน ให้มาปีละ 10 ล้านคน เป็นหน้าที่ที่นายหลู จิ้น ชิง ต้องทำ ซึ่งสามารถเรียกความฮือฮา และสร้างเสียงหัวเราะให้ที่ประชุมได้
ขณะที่ นายหลู จิ้น ชิง กล่าวตอบว่า รู้สึกดีใจที่ได้เป็นพลเมืองพัทยา เพราะเป็นเมืองสวยติดทะเล หวังว่านักธุรกิจชาวจีนทุกคนที่เดินทางมาเมืองพัทยาในครั้งนี้จะมีความสุข บ้านแห่งนี้จะเป็นแห่งที่ 2 เมืองพัทยาจะให้การต้อนรับเสมือนพี่น้องด้วยมิตรภาพ และด้วยความเป็นพลเมืองพัทยากิตติมศักดิ์ จะทำหน้าที่พลเมืองโดยจะได้ทำ MOU ระหว่างสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมจีนกับสมาคมนักธุรกิจประจำเมืองพัทยา และอยากพูดคุยกับนายกเมืองพัทยาในการให้โอกาสแต่งตั้งให้นักธุรกิจจีนคนอื่นเป็นพลเมืองพัทยาด้วยหากทำประโยชน์ให้เมืองพัทยา
ด้าน นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เผยข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ด้วยว่า ตัวเลข GDP ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 คาดว่าจะกระโดดขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 0.7 เป็น 3.0 ภาคการลงทุนมีการเติบโต เพราะปี 2557 ตัวเลขการลงทุนติดลบ แต่ปีนี้ก็ขยับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของภาครัฐเองอาจพิจารณางบประมาณประจำโดยไม่มีการปรับเพิ่มมากนัก แต่การลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ในปีนี้มีการเติบโต เพราะรัฐบาลมีการสนับสนุนใน 5 โครงการหลัก ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจในสายตานักลงทุนได้ ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาระบบการขนส่งและการเดินทางด้วยระบบราง โดยเพิ่มระยะทางของรถไฟรางคู่จาก 400 กม.เป็น 1,200 กม.ทั่วประเทศ
2.โครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่ โดยพัฒนาทั้งรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดินให้เชื่อมต่อกันกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ทั้งกรุงเทพมหานคร
3.โครงการพัฒนาถนนให้มีความเชื่อมต่อกับระบบรางเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ AEC
4.โครงการระบบขนส่งและการเดินทางทางน้ำ พัฒนาท่าเรือรับการขนส่งทางน้ำ และทางทะเลทั้งภายใน และต่างประเทศ
และ 5.โครงการพัฒนาระบบขนส่งและการเดินทางทางอากาศ ที่จะมีการพัฒนาสนามบินให้มีศักยภาพโดยจะช่วยเพิ่มมาตรฐานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป