อุทัยธานี - ลำน้ำสะแกกรังที่เคยแห้งขอดมากที่สุดในรอบ 30 ปี เริ่มมีน้ำสูงขึ้น ทำให้ชุมชนชาวแพ 2 ฝั่งน้ำกลับมามีชีวิตชีวา ชาวบ้านนำเรือนแพบางส่วนลอยน้ำอีกครั้ง แต่อีกหลายรายต้องซ่อมลูกบวบที่แตกเสียหายยกใหญ่ก่อน ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลายแล้ว
วันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดอุทัยธานี หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แม่น้ำสะแกกรังที่เคยแห้งจนเรือนแพของคนในชุมชนชาวแพ 2 ฝั่งน้ำหลายร้อยหลังคาเรือนเกยตื้นได้รับความเสียหาย ปลาในกระชังที่เลี้ยงไว้ทยอยตายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องจับขายก่อนกำหนดขาดทุนกันอย่างยับเยิน การสัญจรทางเรือก็ไม่สามารถเดินทางกันได้ ก็เริ่มมีน้ำสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากระดับน้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านอุทัยธานี เพิ่มระดับขึ้น ทำให้สามารถผันน้ำผ่านประตูระบายน้ำตามรอยเสด็จประภาสต้นรัชกาลที่ 5 ต.เกาะเทโพ อ.เมืองอุทัยธานี เข้าทางคลองขุนหมา ลงสู่แม่น้ำสะแกกรังได้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านน้ำตก วัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ โบราณสถาน และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ไปจนถึงลานสุพรรณิการ์ หน้าศาลากลางจังหวัด ที่เคยแห้งมากที่สุดในรอบ 30 ปี กลับมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เป็นผลทำให้เรือนแพที่เคยต้นสามารถลอยน้ำได้แล้วเป็นจำนวนมาก จะมีเฉพาะเรือนแพบางส่วนต้องรอการซ่อมแซมลูกบวบที่ใช้เป็นทุ่นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จึงจะสามารถชักลากลงน้ำลึกได้ ส่วนปลาในกระชังที่ชุมชนชาวแพเลี้ยงไว้ก็เริ่มเข้าสู่ภาวปกติ ลดสถิติการตายลง รวมทั้งการสัญจรทางเรือก็สามารถเดินทางสัญจรได้บ้างแล้ว
และหากมีฝนตกลงมาในพื้นที่เรื่อยๆ รวมทั้งมีการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าชุมชนชาวแพลำน้ำสะแกกรังก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติในไม่ช้าแน่นอน