บุรีรัมย์ - น้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ยังวิกฤต ปริมาณน้ำลดต่ำสุดในรอบ 30 ปี จนตอม่อสะพานโผล่เหตุฝนตกน้อย กระทบวิถีชีวิตชาวประมงและเกษตรกรที่ทำนาปีสองฝั่งลำน้ำมูลไม่สามารถสูบขึ้นไปทำนาได้ บางพื้นที่ต้นข้าวเริ่มประสบปัญหาขาดน้ำหล่อเลี้ยงยืนต้นตายแล้ว
วันนี้ (25 มิ.ย.) สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังคงน่าห่วง โดยเฉพาะปริมาณน้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก ล่าสุดมีปริมาณลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จนมองเห็นตอม่อสะพานและสันดอนทรายโผล่ บางช่วงแห้งขอดจนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้ โดยสาเหตุที่ปีนี้ปริมาณน้ำมูลลดต่ำเนื่องจากมีฝนตกน้อยและทิ้งช่วง ประกอบกับไม่มีน้ำเหลือไหลมาสมทบ
จากปริมาณน้ำมูลที่ลดต่ำในช่วงนี้ทำให้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวประมงทั้งที่มีอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง และหาปลาตามธรรมชาติในลำน้ำมูลก็ไม่สามารถหาได้เหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งยังกระทบต่อเกษตรกรที่มีอาชีพทำนาริมฝั่งลำน้ำมูลไม่สามารถสูบขึ้นไปทำนาได้ต้องรอน้ำฝนเพียงอย่างเดียว
ขณะที่นาข้าวหลายพื้นที่ในเขตอำเภอสตึกที่ไถหว่านไปแล้วเริ่มประสบปัญหาขาดน้ำหล่อเลี้ยงยืนต้นตายเสียหายแล้ว ทั้งนี้คาดว่าหากภายใน 1-2 สัปดาห์ยังไม่มีฝนตกลงมานาข้าวที่ไถหว่านไว้จะแห้งตายเสียหายเป็นวงกว้าง
นายโอภาส ชนะดี อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ชลประทานที่ดูแลประจำริมลำน้ำมูล ระบุว่า ปีนี้น้ำในลำน้ำมูลมีปริมาณลดต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี โดยจุดที่ลึกที่สุดบริเวณศาลเจ้าพ่อวังกรูดมีปริมาณเหลือประมาณ 3 เมตรเท่านั้นจากระดับความสูงริมฝั่งสูงกว่า 9 เมตร และเหลือเพียงอีก 18 เซนติเมตรก็จะมีระดับต่ำกว่าเกณฑ์ของจุดวัดระดับน้ำที่กำหนดไว้
ขณะที่บางช่วงน้ำมูลมีสภาพแห้งขอดจนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้แล้ว โดยสาเหตุที่น้ำลดต่ำลงเนื่องจากฝนตกน้อยแม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม และหากยังไม่มีฝนตกลงมาอีกจะถึงขั้นวิกฤต และส่งผลกระทบต่อชาวประมงและเกษตรกรที่อาศัยน้ำจากลำน้ำมูลในการประกอบอาชีพอย่างแน่นอน