กาฬสินธุ์ - ชลประทานกาฬสินธุ์แนะเกษตรกรชะลอปักดำนา เหตุฝนทิ้งช่วงส่งผลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางเหลือเพียง 25% หวั่นกระทบต้นกล้าเฉาตาย อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่มีอยู่ยังเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค แนะใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดคุณค่า
จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ แม้จะเข้าสู่ต้นฤดูฝนแต่หลายพื้นที่ยังคงประสบภัยแล้ง เนื่องจากฝนทิ้งช่วงส่งผลให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ รวมไปถึงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 18 แห่งยังคงมีปริมาณน้ำเหลือน้อย โดยล่าสุดอ่างเก็บน้ำทั้ง 18 แห่งมีปริมาณน้ำภาพรวมอยู่ที่ 22 ล้าน ลบ.ม. หรือ 25% ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอต่อการทำเกษตร
โดยเฉพาะการทำนาปีของเกษตรกร ซึ่งชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ได้แนะนำให้เกษตรกรควรที่จะชะลอการทำนาออกไปก่อนจนกว่าฝนจะตกลงมาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากต้นกล้าข้าวที่ปลูกไว้จะเสี่ยงต่อความเสียหายขาดน้ำหล่อเลี้ยงได้
นายสมหมาย ดอกบัว ผู้ช่วยชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ปริมาณน้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 18 แห่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เหลืออยู่เพียง 22 ล้าน ลบ.ม. หรือ 25% ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค ส่วนการทำภาคเกษตร โดยเฉพาะการทำนานั้น เกษตรกรควรที่จะชะลอการหว่านต้นกล้าข้าวหรือการทำนาออกไปก่อนจนกว่าจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่ตกลงมาอย่างสม่ำเสมอประมาณสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เกษตรกรควรที่จะใช้น้ำอย่างประหยัดเกิดคุณค่ามากที่สุด และควรที่จะร่วมกันทำความสะอาดคู คลองส่งน้ำในพื้นที่ของตนเอง เพื่อเตรียมที่จะรับน้ำในการทำเกษตรต่อไป
ขณะที่เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 478 ล้าน ลบ.ม. หรือ 24% ปัจจุบันเขื่อนลำปาวยังคงปิดการส่งน้ำให้แก่เกษตรกรอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอยู่ระหว่างการซ่อมแซมคลองส่งน้ำที่ยังไม่แล้วเสร็จ
จากกำหนดเดิมจะมีการเริ่มส่งน้ำในวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกษตรกรทั้งชาวนา และผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามต้องชะลอและต่างรอคอยใช้น้ำเพื่อที่จะนำมาเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา และปักดำนาปี