กรมชลฯ เริ่มจัดสรรน้ำหนุนทำนาปี แนะเกษตรกรใช้น้ำฝนให้มากที่สุด

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในวันนี้ (20 พ.ค.) ว่า ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 4,763 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 35 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 963 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,272 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,422 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 203 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 168 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 18 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 165 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 2,710 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ กรมชลประทานเริ่มจัดสรรน้ำ เพื่อสนับสนุนการทำนาปีในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในช่วงต้นฤดูฝน โดยได้เริ่มส่งน้ำมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา จนถึงขณะนี้คิดเป็นปริมาณน้ำกว่า 1,100 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากใกล้เข้าสู่ฤดูฝน อีกทั้งยังพบว่าในหลายพื้นที่มีฝนตกลงมาบ้างแล้ว จึงขอให้เกษตรกรใช้น้ำฝนจากแหล่งน้ำธรรมชาติให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อจะได้ช่วยลดและประหยัดการใช้น้ำจากเขื่อน เพื่อให้มีน้ำสำรองไว้ใช้ในภาวะฝนทิ้งช่วงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา