xs
xsm
sm
md
lg

DSI ไทย-พม่าถกแก้ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - DSI ไทย-พม่า ร่วมประชุมแนวทางป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ที่กาญจนบุรี หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ประเทศพม่า เผยแรงงานส่วนใหญ่ต้องการเดินทางไปประเทศที่สาม

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องประชุมมณฑาทิพย์ เทวมันตร์ตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพง์ ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ DSI ร่วมกับ พ.ต.อ.เน เมียว ต๊ะ รองผู้บัญชาการหน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์ ประเทศพม่า พ.ต.ท.ขิ่น หม่อง ละ หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประเทศพม่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่า นายตำรวจประสานงานประจำสถานทูตไทยประจำสหภาพพม่า และเจ้าหน้าที่โครงการออสเตรเลีย-เอเชีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำประเทศไทย (AAPTIP) เข้าร่วมประชุมแนวทางป้องกันและปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ต่อศีลธรรมอันดี และสภาพสังคมโดยรวมของทั้งสองประเทศ การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยความร่วมมือและการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ และตำรวจพม่า ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมมือสอบสวนคดีค้ามนุษย์กันอย่างใกล้ชิดมาเป็นเวลาหลายปี ความสัมพันธ์อันดีที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับพม่า จะนำไปสู่การป้องกันและดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ด้าน พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงษ์ ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า อย่างที่ทราบโดยทั่วกันว่าจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดติดแนวชายแดน ในเรื่องของปัญหาการลักลอบเข้าเมืองยังพอมีอยู่บ้าง แต่ในส่วนของเรื่องการค้ามนุษย์ที่เราเคยดำเนินการ และเคยมีคดีการค้ามนุษย์เกิดขึ้นเราได้สรุปสำนวนไปเรียบร้อยแล้ว เช่น เรื่องของการบังคับใช้แรงงานชาวพม่าตามโรงงาน โดยขบวนการนำพามาจกประเทศพม่า ถามว่าจังหวัดกาญจนบุรี มีการค้ามนุษย์มากหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปยังเป็นปกติอยู่ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตมากมาย หรือเป็นปัญหาหลักของจังหวัดกาญจนบุรี

สำหรับดีเอสไอ เราจะมุ้งเน้นไปที่คดีพิเศษที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม และกรณีที่มีการกระทำเป็นขบวนการ หรือองค์กรก่ออาชญากรรม ซึ่งเราได้รับคดีสำคัญๆ ไว้สอบสวนแล้วหลายคดีด้วยกัน เช่น คดีบังคับใช้แรงงานไทยที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทางการไทยก็ได้ช่วยเหลือเหยื่อกลับประเทศมาหลายรายแล้ว แต่ก็ยังเหลืออยู่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรากำลังทำการสอบสวนอยู่

ในส่วนของชาวพม่า เราก็ทราบว่าตกเป็นผู้เสียหายของขบวนการค้ามนุษย์ที่ประเทศอินโดนีเซียอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งเราก็ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศพม่า และทางตำรวจของพม่าก็ได้ประสานไปยังรัฐบาลของพม่าเอง จึงนำไปสู่การช่วยเหลือชาวพม่ากลับมาประเทศเช่นกัน จุดนี้จึงถือว่าเป็นมิติร่วมกันในการประสานงานระหว่างไทยกับพม่า

นอกจากนี้ เรายังได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการค้าประเวณี ซึ่งเหยื่อมีทั้งคนไทย พม่า และชาวลาว จะเห็นได้ว่าความร่วมมือระหว่างประเทศจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการที่เราจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผล ถ้าเราไม่ได้รับความร่วมมือจากประเทศต้นทางก็จะทำให้การสอบสวนนั้นเป็นไปได้ยาก และในอนาคตเราก็จะดำเนินการร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศกำพูชาต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.ขิ่น หม่อง ละ หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ประเทศพม่า เปิดเผยว่า สำหรับปัญหาการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ส่วนใหญ่พบในพื้นที่บ้านท่าขี้เหล็ก เมืองเมียวดี เกาะสอง ของประเทศพม่า รวมทั้งที่อำเภอพญาตองซู ที่มีชายแดนติดกับอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ปัญหาที่พบคือ การเดินทาง และการสื่อสารค่อนข้างช้า เพราะเส้นทางการเดินทางนั้นค่อนข้างลำบาก

สำหรับขบวนการค้ามนุษย์ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานชาวพม่าเดินทางไปทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดระนอง และที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ของประเทศไทย จากนั้นก็จะเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม คือ ประเทศมาเลเซีย สำหรับเครือข่ายค้ามนุษย์ที่เป็นชาวพม่าส่วนใหญ่จะพูดภาษาไทยได้ แต่ก็เป็นเพียงขบวนการเล็กๆ ที่ร่วมมือกับขบวนการค้ามนุษย์รายใหญ่ที่เป็นคนไทย โดยผ่านนายหน้า สำหรับความร่วมมือระหว่างทางการไทย และพม่าถือว่าการป้องกัน และปราบปรามขบวนการดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี





กำลังโหลดความคิดเห็น