ดีเอสไอแถลงจับสองผู้ต้องหานายหน้าค้าแรงงานประมงที่เกาะอัมบน เผยหาเหยื่อตามสถานีขนส่งเน้นเหยื่อที่นั่งรถไฟฟรีมาจากต่างหวัดเพื่อหางาน ระบุได้ค่าแรงหัวละ 30,000 บาท
วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคะหะพงศ์ ผอ.ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปราม 1 และตัวแทนจากองค์กรพัฒนาเอกชน (LPN) ร่วมแถลงผลการจับกุมนายหน้าค้ามนุษย์รายใหญ่จำนวน 2 ราย ในคดีพิเศษ 12/2558
นางสุวณาเผยว่า คดีค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงานในเรือประมง โดยการหลอกลวงผู้เสียหายไปบังคับใช้แรงงานบนเรือประมง บริเวณเกาะอัมบน ประเทศอินโดนีเซีย เป็นคดีสำคัญที่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันดีเอสไอได้ดำเนินคดีค้ามนุษย์ 4 คดี คดีแรกอยู่ระหว่างศาลพิจารณา ส่วนอีก 2 คดีอยู่ระหว่างการสืบสวน และคดีที่ 4 คือคดีดังกล่าว โดยดีเอสไอตามสืบสวนสอบสวนกระทั่งมีการจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 รายซึ่งเป็นกลุ่มนายหน้าค้ามนุษย์ ตามข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ฐานหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน
ด้าน พ.ต.ท.ไพศิษฎ์กล่าวว่า ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ดีเอสไอ ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มขบวนการนายหน้าและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ กระทำความผิดดังกล่าวจึงขออนุญาตศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 6 ราย ทั้งนี้ ดีเอสไอสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาจำนวน 2 ราย คือ นายชยุตพงศ์ หรือป้อม เจริญพร อายุ 50 ปี และนายสำรวย หรืออ้วน ฉัตรกรด อายุ 53 ปี ทั้งคู่เป็นนายหน้าในขบวนการค้ามนุษย์ โดยจับกุมนายชยุตพงศ์ได้ที่จังหวัดชลบุรี ก่อนตามจับกุมนายสำรวยได้ที่จังหวัดสมุทรสาคร ส่วนอีก 4 รายอยู่ระหว่างหลบหนี เบื้องต้นทั้งคู่ให้การรับสารภาพ
“กลุ่มนายหน้าค้ามนุษย์เถื่อนดังกล่าวจะใช้วิธีการไปเฝ้าชาวบ้านที่เดินทางจากต่างจังหวัดมาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือหัวลำโพง โดยเน้นที่พวกมาหางานทำในกรุงเทพฯ และนั่งรถไฟฟรีมา ก่อนทาบทาม หลังจากนั้นจะพาเหยื่อไปอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในสมุทรสาครซึ่งนายสำรวจเป็นเจ้าของอยู่ประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้นจะพาเหยื่อไปไว้ที่บ่อตกกุ้งแห่งหนึ่งในสมุทรสาครอีกทอดหนึ่ง เนื่องจากบ่อตกกุ้งเดินทางเข้าและออกลำบาก ประกอบกับจะมอมเมาโดยให้เหยื่อค้ามนุษย์ดื่มเหล้าขาว ยาดอง ทำให้ไม่สามารถหนีได้ เมื่อได้คำสั่งจากกลุ่มนายจ้างเรือประมงว่าอยากได้ลูกเรือกี่คน นายชยุตพงศ์และนายสำรวยก็จะนำเหยื่อไปส่งที่ท่าเรือจังหวัดสมุทรสาคร เฉลี่ยเดือนละ 5-7 คน หรือปีละ 50-60 คน โดยค่านายหน้า 30,000 บาทต่อคน หลังจากนี้ดีเอสไอจะทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคนอื่นๆ ต่อไป” พ.ต.ท.ไพศิษฎ์กล่าว
ผอ.ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์กล่าวอีกว่า นอกจากการดำเนินคดีฐานค้ามนุษย์แล้ว ดีเอสไอจะประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงินอีกด้วย