ปส.จับยาบ้าสายพันธุ์ใหม่ประทับรูปแอปเปิล

บช.ปส.แถลงผลการจับยาเสพติด 3 คดี ได้ของกลางเป็นยาบ้าชนิดใหม่ทั้งสีส้มและเขียวประทับตรารูปแอปเปิล ได้ตัวผู้ต้องหา 3 ราย อีกคดีจับยาไอซ์ 3 กก.ขณะลำเลียงมากับขบวนรถไฟสายเชียงใหม่-กรุงเทพ เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้าที่ขนส่งหมอชิตได้ผู้ต้องหา 1 ราย



วันนี้ (2 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด 3คดี

คดีแรก เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม นายสมพร ธรรมขันธ์ หรือเขียด อายุ 43 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี, น.ส.พรพิมล หัสดี หรือตุ๊กตา อายุ 34 ปี, นายบุญเลิศ วิเศษสิงห์ หรือเลิศ อายุ 38 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยของกลางยาบ้าชนิดเม็ดสีส้มและสีเขียวปะปนกัน ประทับรูปแอปเปิล ทั้งหมด 40,000 เม็ด, รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีดำ 4 ประตู ทะเบียน กฉ 1569 กาญจนบุรี ,รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว รุ่นวีออส ทะเบียน กต 374 กาญจนบุรี, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งออโตเมตริก ยี่ห้อซีแซด 75 บี ขนาด 9 มม.ไม่มีทะเบียน, โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณภายในวัดตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด เครือข่ายนายยะ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) กับพวกร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจากประเทศพม่าเข้ามาเก็บไว้ใน จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงติดต่อไปเพื่อทำการซื้อยาตกลงกันในราคายาบ้า 40,000 เม็ด เป็นเงิน 2,400,000 บาท ก่อนจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร 4 บัญชีที่นายยะให้ไว้ จากนั้นได้ตกลงส่งมอบยาให้กันที่วัดดังกล่าว เมื่อกลุ่มผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 เดินทางมาถึง นายสมพรได้นำยาเสพติดมามอบให้เจ้าหน้าที่อำพราง ระหว่างนั้นนายสมพรรู้สึกถึงความผิดปกติจึงนำปืนมาขึ้นลำเตรียมไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม และบังคับให้นายสมพรลงจากรถ แต่ผู้ต้องหาเร่งเครื่องยนต์ใส่ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงยางรถยนต์จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ และพบนายบุญเลิศเดินปะปนอยู่กับผู้คนในวัดจึงจับกุมตัวไว้ก่อนนำมาสอบสวน

พล.ต.ท.เรวัชกล่าวต่อว่า ยาบ้าที่พบเป็นยาชนิดใหม่ที่ถือว่าค้นพบเป็นครั้งแรก ไม่เคยพบมาก่อนเชื่อว่าจะอันตรายกว่ายาตัวอื่นๆ ที่เคยพบ จากนี้จะต้องส่งยาตัวนี้ไปตรวจสอบเพื่อหาสารเสพติดว่ามีสารอะไรบ้างในการผลิต นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า นายสมพร หรือนายเขียด มีประวัติเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดเมื่อปี2543 ก่อนจะพ้นโทษออกมา ต่อมาปี 2554 ต้องโทษคดีร่วมกันชิงทรัพย์ และฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย โดยได้ชิงรถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน บม 2432 สุพรรณบุรี แล้วใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ประไพรัตน์ เปรมบำรุง อายุ 27 ปี เสียชีวิตที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยในคดีนี้ได้จับกุมตัวนายสมพรร่วมกับนายสมัย อำไพ นายเดขา ท้วมผึ้ง และนายธวัชชัย สมรูป ซึ่งนายสมพรหลบหนีมาตลอด

พล.ต.ท.เรวัชกล่าวอีกว่า ระหว่างที่นายสมพรถูกจับคดียาเสพติดอยู่นั้น นายสมพรได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องดูแลนักโทษที่เข้ามาใหม่ จึงทำให้รู้จักนักโทษทุกคนเป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นคือนายอู ปัจจุบันเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่อยู่ในฝั่งประเทศพม่า และมักจะส่งยาบ้าเข้ามาในประเทศไทยผ่าน จ.กาญจนบุรี ซึ่งนายอูจะมีผู้พันเรวิน ทหารกะเหรี่ยงให้การคุ้มครองอยู่ด้วย

จากการสอบสวนนายสมพรให้การว่า สาเหตุที่ต้องกลับมาค้ายาอีกครั้งเพราะต้องการหาเงินมาใช้จ่ายระหว่างหลบหนี เนื่องจากถูกออกหมายจับไว้ในคดีร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์เมื่อปี 2554 และตนก็ต้องหลบหนีมาตลอดกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธาราณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฎิบัติการตามหน้าที่ต่อนายสมพร ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป

คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 สามารถจับกุมตัวนายวุฒิพงศ์ พจนาวรากุล หรือเต็ง อายุ 32 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 123/2556 ข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ไอซ์) และกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว ลงวันที่ 20 มิ.ย. 2556 คดีอาญาที่ 39/2556 ลงวันที่ 3 เม.ย. 2556 ได้ที่จุดตรวจแม่นะ ถนนเชียงแสน-แม่สาย ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 56 เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เชียงใหม่ ร่วมกันจับกุม น.ส.ธัญชนิต สกุลนำโชค พร้อมไอซ์ หนัก 3 กิโลกรัม ได้ที่บนขบวนรถไฟเชียงใหม่ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากการสอบสวน น.ส.ธัญชนิตให้การว่ารับจ้างขนยาเสพติดดังกล่าวไปส่งให้กับนายวุฒิพงศ์ที่สถานีขนส่งหมอชิต ต่อมาเวลา 07.00 น.ของวันที่ 5 เม.ย. 56 ได้มีนายธนกฤต สุดปรพเสริฐ หรือบอล เดินทางมารับไอซ์จำนวน 2 กิโลกรัม และมีนายเกรียงศักดิ์ เล่าวิริยะธนชัย หรือแช่ง มาพร้อมกับ น.ส.ขนิษฐา ดีวงศ์ หรือโอ๋ มารับไอซ์จำนวน 1 กิโลกรัมตามคำสั่งของนายวุฒิพงศ์ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนายวุฒิพงศ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าในวันที่ 1 เม.ย. นายวุฒิพงศ์จะเดินทางโดยรถยนต์ผ่านเส้นทางเชียงแาน-แม่สาย กระทั่งจับกุมตัวได้ดังกล่าว ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ บก.สบส.บก.ปส. สามารถจับกุมตัว นายไอศวรรย์ ทรงอัศวกุล อายุ 43 ปี ชาว จ.ตาก และน.ส.พิศมัย แซ่ว่าง อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 2 มัด จำนวน 4,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียน ฒฬ 7304 กทม. และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่ด่านตรวจห้วยยะอุ ต.ด่านแม่เมาะ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่านายไอศวรรย์ และน.ส.พิสมัยจะทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก ไปส่งมอบให้แก่ผู้ค้าในพื้นที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียนฒฬ 7304 กทม. ผ่านเส้นทาง อ.แม่สอด-อ.เมืองตาก เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งด่านสกัดเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.20 น. เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวจึงเรียกเพื่อทำการตรวจค้นพบยาบ้า 2 มัดซุกซ่อนอยู่บริเวณด้านในกันชนหน้ารถ

จากการสอบสวนนายไอศวรรย์ และน.ส.พิสมัย ให้การว่านำยาเสพติดดังกล่าวจริง โดยนำยาเสพติดมาจาก อ.พบพระ จ.ตาก และจะนำไปส่งใหกับลูกค้าใน อ.เมืองตาก จ.ตาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟดตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป