ราชบุรี - รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ลงตรวจสอบทองคำในสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองโพธาราม หลังพบมีการทุจริตเงินกว่า 10 ล้านบาท และมี จนท.เอาทองคำปลอมมาจำนำ พร้อมสั่งพักงานผู้จัดการสถานธนานุบาลฯ พร้อมผู้ช่วยผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 2 คน เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่ชาวบ้านแห่ตรวจสอบทองคำของตนเอง หลังทราบข่าวเจ้าหน้าที่ทุจริต
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่บริเวณสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองโพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาขอตรวจสอบทองคำรูปพรรณของตนเองที่ได้นำมาจำนำไว้กับทางสถานธนายุบาลเทศบาลเมืองโพธาราม หลังจากทราบข่าวว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นภายในสถานธนานุบาลฯ โดยมีเจ้าหน้าที่บางรายเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยการนำทองคำรูปพรรณปลอมมาจำนำแล้วยักยอกเงินโรงรับจำนำออกไปเป็นเงินร่วม 10 ล้านบาท โดยทางสถานธนานุบาลฯ ได้ทำการทำการมาแล้ว 4 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้
ขณะที่ช่วงสายของวันนี้ ดร.โชคชัย เดชอมรธัญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และสอบสวนข้อเท็จจริงจากนิติกรของทางเทศบาลเมืองโพธาราม โดยมี นายสวัสดิ์ จังพาณิชย์ นายกเทศมนตรีเมืองโพธาราม รอให้ข้อมูล
ดร.โชคชัย เดชอมรธัญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการเดินทางมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่า เบื้องต้น มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นภายใน โดยมีเจ้าหน้าที่บางคนของโรงรับจำนำแห่งนี้ได้มีการใช้ทองคำปลอมที่ส่วนใหญ่เป็นทองรูปพรรณทั้งหมดแอบอ้างนำชื่อบุคคลอื่นที่เคยเป็นลูกค้าประจำของโรงรับจำนำยักยอกเงินออกไป
จากการตรวจสอบพบว่า บางส่วนเป็นทองปลอมที่มีการกระทำดังกล่าวจริง แต่บางส่วนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นขณะนี้ผู้เสียหายคือ ทางเทศบาลเมืองโพธาราม ได้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดไว้แล้ว ส่วนตัวเลขเงินที่ถูกยักยอกไปนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน แต่ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ทรัพย์สินของประชาชนอย่างแน่นอน และประชาชนยังสามารถมาใช้บริการได้ตามปกติ
ดร.โชคชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งพักงานผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองโพธาราม พร้อมผู้ช่วยผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 2 คน เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะมีความผิดทั้งทางวินัยแพ่ง และอาญา ซึ่งการมาตรวจพบการทุจริตในครั้งนี้เป็นการตรวจสอบตามระบบปกติ และก็มาพบการกระทำผิดเข้า
“ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้มีการตรวจสอบสถานธนานุบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลทั่วประเทศ และจะต้องมีการเพิ่มความถี่ และการเฝ้าระวังตรวจสอบทองรูปพรรณที่มีการรับเข้ามายังสถานธนานุบาลว่าเป็นของจริง หรือของปลอมอย่างเข้มงวดขึ้นด้วย”
นางกาหลง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาว อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้เดินทางมาขอดูทองคำรูปพรรณที่นำมาจำนำไว้ยังสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองโพธาราม กล่าวว่า หลังจากรู้ข่าวว่ามีการนำทองปลอมมาแอบอ้างจำนำแล้วยักยอกเงินออกไป ตนก็รีบมาดูว่าทองคำของตัวเองยังอยู่ และเป็นของจริงหรือไม่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่า ทองคำของตนเองยังอยู่เหมือนเดิมก็สบายใจ