สั่งย้าย พยาบาล รพ.สตึก ไปช่วยราชการ สสจ. บุรีรัมย์ ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงยักยอกเงิน รพ.สตึก 2.7 ล้านบาท เผยหากพบผิดทางวินัยโดนลงโทษด้วย หนักสุดไล่ออกจากราชการ
วันนี้ (3 มิ.ย.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) บุรีรัมย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริง นางวิภานันท์ อ่อนวิจารย์ อายุ 49 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ปลอมลายมือชื่อ นพ.สสจ. ผอ.รพ.สตึก เจ้าหน้าที่ รพ. และ อสม. หลายร้อยคน เพื่อทำโครงการยักยอกเงินของ รพ.สตึก 10 กว่าโครงการ รวม 2.7 ล้านบาท ว่า ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้ออกคำสั่งย้ายพยาบาลรายดังกล่าวให้ไปช่วยราชการที่ สสจ.บุรีรัมย์ เพื่อความสะดวกในการสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ลงนามคำสั่งให้ย้ายแล้วเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา
“การกระทำของพยาบาลคนดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัย ซึ่งความผิดทางอาญาและทางแพ่ง เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.สตึก โดยจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรม ภายใน 30 วัน ส่วนทางวินัยหากพบว่ากระทำความผิดวินัย ก็จะได้รับโทษทางวินัยตามระดับความรุนแรง โทษสถานหนักที่สุด คือ การไล่ออกจากราชการ โดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด” นพ.สมพงษ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (3 มิ.ย.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) บุรีรัมย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริง นางวิภานันท์ อ่อนวิจารย์ อายุ 49 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ปลอมลายมือชื่อ นพ.สสจ. ผอ.รพ.สตึก เจ้าหน้าที่ รพ. และ อสม. หลายร้อยคน เพื่อทำโครงการยักยอกเงินของ รพ.สตึก 10 กว่าโครงการ รวม 2.7 ล้านบาท ว่า ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้ออกคำสั่งย้ายพยาบาลรายดังกล่าวให้ไปช่วยราชการที่ สสจ.บุรีรัมย์ เพื่อความสะดวกในการสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ลงนามคำสั่งให้ย้ายแล้วเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา
“การกระทำของพยาบาลคนดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัย ซึ่งความผิดทางอาญาและทางแพ่ง เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.สตึก โดยจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรม ภายใน 30 วัน ส่วนทางวินัยหากพบว่ากระทำความผิดวินัย ก็จะได้รับโทษทางวินัยตามระดับความรุนแรง โทษสถานหนักที่สุด คือ การไล่ออกจากราชการ โดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด” นพ.สมพงษ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่