ชาวไร่มันสำปะหลังร้องศูนย์ดำรงธรรมเมืองจันท์ เดือดร้อนหลังถูกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน

จันทบุรี - กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจันทบุรี กว่า 10 ราย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี ให้ช่วยเหลือไกล่เกลี่ย และเร่งรัดเงินกว่า 9 แสนบาท ที่ถูกผู้เช่าที่ดินยังไม่ยอมจ่าย และยังถูกยกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้รับความเดือดร้อน

วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำหลัง จำนวน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มทุ่งขนาน กลุ่มบุรีรัมย์ และกลุ่มชลบุรี จำนวนกว่า 10 ราย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี ให้ช่วยเหลือไกล่เกลี่ย และเร่งรัดให้ผู้เช่า คือ น.ส.บุญญาดา ภูกำเนิด ได้จ่ายเงินที่ยังคงติดค้างอยู่กว่า 9 แสนบาท และยังมาถูกผู้เช่ายกเลิกสัญญาเช่าที่ดินอีก

ทำให้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้รับความเดือดร้อน เมื่อกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทวงถามเรื่องเงิน ก็ถูก น.ส.บุญญาดา ผู้เช่าผัดผ่อนไปเรื่อยๆ

จนปัจจุบัน เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังยังไม่ได้เงินจากการลงทุนปลูกมันสำปะหลังครบตามสัญญาที่ได้มีการทำสัญญากันไว้ ทั้งค่าซื้อต้นกล้าพันธุ์ ค่าขนส่ง และการซื้อขายมันสำปะหลังแม้แต่บาทเดียว จึงอยากให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี ได้เข้ามาช่วยเหลือ เพราะเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังใน 3 กลุ่ม จำนวน 10 กว่าคนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ในเบื้องต้น ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี ได้รับเรื่องไว้ นอกจากนี้ จังหวัดคือ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ก็ได้รับปากต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจะเข้าไปดำเนินการไกล่เกลี่ย และเร่งรัดให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้รับเงินที่ถูกผู้เช่ายังไม่ยอมจ่ายต่อไป ซึ่งสร้างความดีใจให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังเป็นอย่างมาก

นางสมพร กิรัมย์ อายุ 46 ปี ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง กล่าวว่า ตนเองได้มีการพูดคุยระหว่างผู้ให้เช่า ไม่ได้คุยกันกับเจ้าของที่ตัวจริง โดยมีการตกลงกันว่า หากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจ่ายเงินค่าเช่าที่ดินหมด เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังก็สามารถที่จะเข้ามาดำเนินการปรับพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังได้เลย ซึ่งเกษตรกรก็ได้จ่ายเงินไปครบตามสัญญาที่ได้พูดคุยกับผู้เช่าเอาไว้ เดิมที่พื้นที่ปลูกมันเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มอยู่ ซึ่งผู้เช่าก็ได้บอกว่าให้เอาปาล์มลงก่อน พอเอาลงหมดผู้เช่าก็ให้เกษตรกรได้เข้ามาทำไร่มันสำปะหลัง

ทั้งนี้ เกษตรกรได้นำรถไถมาทำการปรับพื้นที่เพื่อปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งเฉพาะของกลุ่มบุรีรัมย์ก็ประมาณ 170,000 บาท ที่ได้ลงทุนไป ซึ่งกลุ่มอื่นก็โดนในลักษณะเดียวกันด้วย ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน และเป็นผู้เช่าคนเดียวกัน ซึ่งเป็นแปลงเดียวกันแต่เป็นแปลงใหญ่ เนื้อที่ 600 กว่าไร่ ซึ่งตรงนี้ไม่รู้ว่าเจ้าของที่ดินได้กว้านซื้อได้อย่างไร หลังจากลงมือปรับพื้นที่ และลงมือปลูกก็ถูกยกเลิกสัญญา

จากนั้นผู้เช่าก็ได้บอกเพราะเหตุผลว่า เจ้าของที่ดินจะขายที่ดินผืนนี้ คนที่ซื้อที่ดินผืนนี้จึงไม่ให้มีการปลูกมันสำปะหลัง เพราะจะทำให้เสียหน้าดิน เจ้าของที่ดินกลัวว่า จะขายไม่ได้เลยไม่ให้เกษตรกรปลูกมันสำปะหลังเลย พอไม่ให้ปลูกเกษตรกรก็ขอเงินคืนที่ได้ลงทุนไป ก็มีการทำสัญญากันขึ้นว่าจะจ่าย พอถึงวันนัดก็ไม่ได้จ่ายให้แก่เกษตรกร โดยผู้เช่าได้เลื่อนนัดมา 3 นัดแล้ว ทำให้ทางเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และต้องเดินทางมาขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดจันทบุรี ได้เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว