บุรีรัมย์ - พนักงาน-อดีตลูกจ้าง อบต.โคกสว่าง อ.หนองกี่ ร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วย หลังถูกปลัด อบต.เมืองไผ่หลอกให้รวมกลุ่มกู้เงิน ธกส. อ้างมีความเดือดร้อนจำเป็นต้องใช้จ่าย รับปากรับผิดชอบชำระเอง แต่ได้เงินไป 5 ปีกลับไม่จ่ายคืน เจอ ธกส.ทวงหนี้ทั้งต้น-ดอกเกือบ 7 แสน
วันนี้ (10 มี.ค.) พนักงานและอดีตลูกจ้างองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกสว่าง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ 5 คนนำหลักฐานการกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาหนองกี่ ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ช่วยเหลือ หลังถูกนายปรีดี คะสุวรรณ ปลัด อบต.เมืองไผ่ หลอกให้รวมกลุ่มกู้ยืมเงิน ธกส.สาขาหนองกี่ รายละ 100,000 บาท ภายใต้ชื่อกลุ่มพัฒนาอาชีพเมื่อปี 2553
โดยอ้างว่ามีความเดือดร้อน จำเป็นต้องใช้จ่ายเงิน ด้วยความนับถือในฐานะที่เป็นถึงปลัด อบต. และเชื่อใจที่เคยทำงานร่วมกัน ขณะที่นายปรีดีเป็นปลัดอยู่ อบต.โคกสว่างมานานหลายปี ประกอบกับนายปรีดีรับปากว่าจะชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเองทั้งหมดจึงยอมยื่นกู้เงิน
จากนั้นนายปรีดีดำเนินการเรื่องเอกสารยื่นกู้ทุกอย่างเอง พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ ธกส.มาทำเรื่องกู้ยังสำนักงาน อบต. หลังจากทั้ง 5 คนได้รับเงินจาก ธกส.เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2553 ได้นำเงินไปให้นายปรีดีคนละ 50,000-100,000 บาทตามที่เอ่ยปากขอยืมไว้ แต่ไม่มีหลักฐานหรือสัญญาการกู้ยืมแต่อย่างใด เพราะนับถือและเชื่อใจกัน
กระทั่งเวลาผ่านไปนานเกือบ 5 ปี นายปรีดีไม่เคยชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้ ธกส. จนทาง ธกส.มีหนังสือติดตามทวงหนี้มาถึงพวกตนทั้ง 5 คนรวมเกือบ 700,000 บาท ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ทั้ง 5 คนเป็นอย่างมาก
ต่อมา พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ เป็นตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องเรียน พร้อมเรียกนายปรีดีที่ถูกร้องเรียนมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยนายปรีดียอมรับว่าได้ยืมเงินจากทั้ง 5 คนจริง พร้อมรับปากจะยอมชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้ ธกส.เอง โดยทางศูนย์ดำรงธรรมได้ทำบันทึกข้อตกลงไว้เป็นหลักฐานด้วย
วันนี้ (10 มี.ค.) พนักงานและอดีตลูกจ้างองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกสว่าง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ 5 คนนำหลักฐานการกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาหนองกี่ ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ช่วยเหลือ หลังถูกนายปรีดี คะสุวรรณ ปลัด อบต.เมืองไผ่ หลอกให้รวมกลุ่มกู้ยืมเงิน ธกส.สาขาหนองกี่ รายละ 100,000 บาท ภายใต้ชื่อกลุ่มพัฒนาอาชีพเมื่อปี 2553
โดยอ้างว่ามีความเดือดร้อน จำเป็นต้องใช้จ่ายเงิน ด้วยความนับถือในฐานะที่เป็นถึงปลัด อบต. และเชื่อใจที่เคยทำงานร่วมกัน ขณะที่นายปรีดีเป็นปลัดอยู่ อบต.โคกสว่างมานานหลายปี ประกอบกับนายปรีดีรับปากว่าจะชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเองทั้งหมดจึงยอมยื่นกู้เงิน
จากนั้นนายปรีดีดำเนินการเรื่องเอกสารยื่นกู้ทุกอย่างเอง พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ ธกส.มาทำเรื่องกู้ยังสำนักงาน อบต. หลังจากทั้ง 5 คนได้รับเงินจาก ธกส.เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2553 ได้นำเงินไปให้นายปรีดีคนละ 50,000-100,000 บาทตามที่เอ่ยปากขอยืมไว้ แต่ไม่มีหลักฐานหรือสัญญาการกู้ยืมแต่อย่างใด เพราะนับถือและเชื่อใจกัน
กระทั่งเวลาผ่านไปนานเกือบ 5 ปี นายปรีดีไม่เคยชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้ ธกส. จนทาง ธกส.มีหนังสือติดตามทวงหนี้มาถึงพวกตนทั้ง 5 คนรวมเกือบ 700,000 บาท ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ทั้ง 5 คนเป็นอย่างมาก
ต่อมา พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ เป็นตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องเรียน พร้อมเรียกนายปรีดีที่ถูกร้องเรียนมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยนายปรีดียอมรับว่าได้ยืมเงินจากทั้ง 5 คนจริง พร้อมรับปากจะยอมชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้ ธกส.เอง โดยทางศูนย์ดำรงธรรมได้ทำบันทึกข้อตกลงไว้เป็นหลักฐานด้วย