xs
xsm
sm
md
lg

ช้างป่าสลักพระบุกทำลายไร่มันชาวบ้านเสียหายกว่า 20 ไร่ สูญเงินลงทุนรายละร่วม 6 หมื่นบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ช้างป่าอาละวาดออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ บุกเข้าทำลายไร่มันของชาวบ้านเสียหายกว่า 20 ไร่ ในพื้นที่ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองกาญจนบุรี สูญเงินลงทุนรายละร่วม 6 หมื่นบาท โอดเช่าที่ไม่รู้ว่าเป็นทางเดินของช้างป่า เสียดายอีก 4 เดือนก็ได้ผลผลิต สุดท้ายถอยดีกว่า



เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (15 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสมัย โสดสงค์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163/2 หมู่ 1 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายพินิจ อ่อนบุญธรรม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 1 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และนางนนท์ แสนสุข อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175/1 หมู่ 1 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า ไร่มันสำปะหลังที่ปลูกเอาไว้รวมกันจำนวน 24 ไร่ ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถูกช้างป่าลงมาทำลายเสียหายเกือบทั้งหมด จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี และนายวสันต์ สุพจิรัตน์ ผญบ.หมู่ 5 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ไปถึงพบต้นมันสำปะหลังที่ปลูกเอาไว้ถูกช้างถอนทำลายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะที่บริเวณชายป่าติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ถูกถอนทำลายเสียหายทั้งหมด แต่จากสภาพพบหัวมันสำปะหลังไม่ใหญ่มากนัก และจากการตรวจสอบในพื้นที่พบร่องรอยเท้าช้างสภาพมีทั้งขนาดเล็ก และใหญ่เหยียบย่ำไปทั่วบริเวณ ส่วนมูลช้างก็มีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน

โดย นายสมัย นายพินิจ และนางนนท์ ร่วมกันเปิดเผยว่า ตนทั้ง 3 คนเป็นชาวอำเภอไทรโยค ได้มาร่วมกันเช่าที่ผืนดังกล่าวเพื่อใช้สำหรับปลูกมันสำปะหลังคนละ 8 ไร่ รวมทั้งหมด 24 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว นานๆ ครั้งจะมาดูไร่สักครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่พวกตนมาดูไร่มันสำปะหลัง ก็พบว่า บางส่วนถูกช้างถอนทำลาย จึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ให้เข้ามาตรวจสอบ และก็ได้รับความช่วยเหลือในการเฝ้าระวังให้เป็นอย่างดี

ขณะที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอยู่นั้น ประกฏว่า ไม่มีช้างลงมาทำลายอีก แต่คืนที่ผ่านมา ทราบว่าเจ้าหน้าที่ชุดไล่ช้างต้องเดินทางไปตรวจตราเฝ้าระวังช้างทำลายพืชไร่ของชาวบ้านในพื้นที่อื่น ซึ่งผลปรากฏว่า เมื่อพวกตนมาดูไร่มันสำปะหลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปรากฏว่า ถูกช้างถอนทำลายเสียหายกว่า 20 ไร่ จึงได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้

สำหรับเงินลงทุนในการปลูกมันสำปะหลังหมดไปคนละประมาณ 6 หมื่นบาท อีกแค่ประมาณ 4 เดือน ก็จะได้ผลผลิตแล้ว คาดว่าหากไม่ถูกช้างถอนทำลายจนเสียหายก่อน ผลผลิตก็จะตกไร่ละประมาณ 7 ตันต่อไร่ ปัจจุบันราคาตันละ 2,000 บาท ทำให้พวกตนต้องสูญเสียเงินลงทุน และกำไรที่จะได้รับรวมคนละประมาณ 112,000 บาท

นายสมัย นายพินิจ และนางนนท์ ร่วมกันเปิดต่อเผยว่า ก่อนหน้านี้ มีคนแนะนำให้พวกตนมาเช่าที่ผืนดังกล่าว โดยที่ไม่บอกแก่พวกตนว่าเป็นทางเดินของช้าง ซึ่งพวกตนไม่เคยทราบมาก่อน ครั้งแรกที่ช้างลงมากินมันสำปะหลังพวกตนคิดว่าจะทำรั้วไฟฟ้าขึงกั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันช้างลงมาทำลาย แต่ก็ต้องล้มเลิกความคิดเพราะเกรงว่าช้างป่าอาจจะถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต อีกทั้งเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ก็ได้แนะนำพวกเราเป็นอย่างดี หลังจากนี้ ก็จำเป็นจะต้องยอมสูญเสียเงินที่ลงทุนไป และคงจะไปขอยกเลิกสัญญาเช่ากับเจ้าของที่ดินต่อไป

นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการสอบถามก็พบว่าชาวบ้านที่มาลงทุนมาจากอำเภอไทรโยค ซึ่งบอกว่าไม่รู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางหากินของช้างป่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เข้าข่ายเสียหายเกี่ยวกับอุทกภัยทางธรรมชาติ ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจเป็นอย่างดี ส่วนจะลงทุนทำต่อหรือไม่ ก็อยากให้ชาวบ้านทั้ง 3 ราย ทำตามคำแนะนำของผู้ใหญ่บ้าน ด้วยการหันไปปลูกพริก หรืองา แทน เพราะโดยตามธรรมชาติของช้างจะไม่ชอบพืชทั้ง 2 ชนิด


กำลังโหลดความคิดเห็น