อุตรดิตถ์ - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง บุกยึดสวนยางพารากลางป่าสงวนฯ ลำน้ำน่านฝั่งขวา พร้อมระดมกำลังปลูกต้นไม้ฟื้นฟูผืนป่าอนุรักษ์แหล่งต้นน้ำสำคัญของเขื่อนสิริกิติ์
วันนี้ (15 ก.ค.) นายสุชาติ ธีระวงศ์พิทักษ์ ปลัดจังหวัดอุตรดิตถ์, ว่าที่ ร้อยตรี พยุงศักดิ์ สุวรรโณ นายอำเภอท่าปลา, นายธีระ เงินวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์, นายอมร ต่อเจริญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก พร้อมด้วยนายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา และกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อาสาสมัครพิทักษ์ป่า ได้เข้าตรวจยึดพร้อมตัดโค่นสวนยางพาราที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติลำน้ำน่านฝั่งขวา ณ บริเวณป่าห้วยต้นก้อ บ้านทรายงาม ม.10 ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา จำนวน 19 ไร่
นายอมรกล่าวว่า สวนยางพาราดังกล่าวนี้อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ที่ต้องรักษาไว้เป็นป่าต้นน้ำลำธาร เป็นพื้นที่หวงห้ามสำหรับสัตว์ป่า ซึ่งในพื้นที่อุทยานลำน้ำน่านมีทั้งสิ้น 6 แสนกว่าไร่ เป็นพื้นที่ป่าตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 ซึ่งให้ราษฎรสามารถทำกินได้โดยได้รับการผ่อนผันจำนวน 15,000 ไร่
นายอมรกล่าวว่า จังหวัดอุตรดิตถ์มีการบุกรุกไม่มากนัก แต่เป็นแหล่งพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญที่จะเติมน้ำลงไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งปัจจุบันก็จะเห็นได้ว่ามีความแห้งแล้งค่อนข้างมาก ก็อยากจะขอร้องพี่น้องประชาชนอย่าบุกรุกป่า
สำหรับพื้นที่รับผิดชอบของสำนักฯ 11 ประกอบด้วย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ถูกบุกรุกเข้าไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายประมาณ 1,700 ไร่ และเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจยึดไปแล้ว 1,200-1,300 ไร่เศษ เหลืออีกประมาณ 400 ไร่ ซึ่งบางส่วนเป็นราษฎรผู้ยากไร้ ทางสำนักฯ 11 ก็จะประสานให้ทำกินไปก่อนจนกว่าจะหาอาชีพอื่นที่ให้อยู่ได้
ในโอกาสเดียวกันนี้ ทางอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก, หน่วยอนุรักษ์ต้นน้ำ, อำเภอท่าปลา, เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดอุตรดิตถ์, ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานในพื้นที่อำเภอท่าปลา รวมประมาณ 200 คนยังได้ร่วมปลูกต้นไม้ฟื้นฟูผืนป่าดังกล่าวด้วย