ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชสั่งทั้ง 32 อำเภอเร่งกู้นาข้าวกว่า 3.2 ล้านไร่ขาดน้ำ ก่อนแห้งตายสังเวยภัยแล้งเป็นมูลค่ามหาศาล เผยห้ามไม่อยู่เกษตรกรพากันทำนาไปแล้ว หากไม่มีฝนตกใน 15-30 วัน นาข้าวอายุ 2-3 เดือนจะยืนต้นแห้งตายสิ้นเชิง กำชับนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอต้องไปหาแหล่งน้ำสูบช่วยชาวนาโดยเร่งด่วนก่อนเสียหายยับ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา, เกษตรจังหวัด, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ นายธงชัยได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอเร่งให้การช่วยเหลือพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร เนื่องจากขณะนี้เกษตรกรได้ทำนาหว่านข้าวไปแล้วกว่า 3.2 ล้านไร่ หากปล่อยให้เสียหายจะเป็นมูลค่ามหาศาล และเงินชดเชยที่รัฐจ่ายให้ไร่ละ 1,000 บาท ไม่คุ้มกับต้นทุนและรายได้จากผลผลิตข้าวของชาวนา และหากไม่มีฝนตกลงมาภายใน 15-30 วันนี้ นาข้าวอายุ 2-3 เดือนจะยืนต้นแห้งตายโดยสิ้นเชิง
ฉะนั้น ขอให้นายอำเภอทั้ง 32 อำเภอเร่งหาแหล่งสูบน้ำอย่างน้อยอำเภอละ 1 จุด ทำการสูบน้ำช่วยเหลือนาข้าวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และให้เร่งสำรวจพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมดในพื้นที่พร้อมรายงานให้จังหวัดทราบทุกระยะ หากพื้นที่ไหนไม่ดำเนินการ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะลงไปจัดการเองเพราะถือเป็นนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ขอให้ถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ด้าน นายสมบูรณ์ ซารัมย์ เกษตรกรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนเฉพาะชาวนามีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 3.8 ล้านไร่ ขณะนี้มีการเพาะปลูกแล้วกว่า 3.2 ล้านไร่ และข้าวมีอายุประมาณ 1-3 เดือน ส่วนอ้อยมีการเพาะปลูกแล้วร้อยละ 90 จากที่ขึ้นทะเบียนไว้ทั้งหมด 7.8 แสนไร่ มันสำปะหลังเพาะปลูกแล้ว 3 แสนกว่าไร่ จากทั้งหมดกว่า 1.9 ล้านไร่ และข้าวโพดยังเพาะปลูกน้อย
ขณะนี้ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ นาข้าว หากไม่มีน้ำอีกไม่เกิน 15 วันก็จะยืนต้นแห้งตายแน่นอน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 6-7 แสนไร่ขอความร่วมมือนายอำเภอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชะลอการเพาะปลูกไปจนถึงต้นเดือน ส.ค.ค่อยลงมือหว่านไถเพื่อลดความเสียหายและได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งตนได้สั่งการให้เกษตรกรอำเภอเร่งทำการสำรวจพื้นที่และให้ความรู้เกษตรกรในการใช้เทคนิคการตัดต้นข้าวให้ยาวประมาณ 15 ซม. เพื่อชะลอการตายไปได้ประมาณ 15-20 วัน
