ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกษตรกรโคราชกรระทมหนัก แล้งเล่นงานอ่วม ทำสวนปลูกพืชผักระยะสั้น ตามภาครัฐส่งเสริมเหี่ยวแห้งตายขาดทุนยับ ส่วนนาไร้น้ำ ฝนไม่ตกหว่านข้าวทำนาปีไม่ได้ ตั้งหน้ารอฟ้าชี้ชะตาหากฝนยังไม่ตกอีก 1 เดือนจำเป็นต้องเสี่ยงทำนา วอนรัฐหาพันธุ์ข้าวแจก และเร่งทำฝนหลวง ให้เกษตรกรมีความหวังหาเงินใช้หนี้สินที่นับวันพอกพูนท่วมหัว
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมารายงานว่า ล่าสุด จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายแล้วกว่า 421,016.5 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่นาเสียหาย 388,296 ไร่ พื้นที่ไร่ เสียหาย 32,720.5 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 438 ล้านบาท ขณะที่เกษตรกรยังคงรอฝนเพื่อเริ่มลงมือหว่านข้าวทำนา โดยหันไปปลูกผัก ซึ่งเป็นพืชระยะสั้นที่ภาครัฐส่งเสริม แต่กลับถูกภัยแล้งเล่นงานซ้ำ พืชผักที่ปลูกไว้เหี่ยวเฉา ไม่โตและถูกแดดเผาเสียหายขาดทุน
นางสนับ ยศสระน้อย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 ม.11 บ้านหนองขอน ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เกษตรกร เล่าว่า ตนทำนาและทำสวนผัก บนเนื้อที่ 7 ไร่ มานานกว่า 20 ปี โดยเช่าที่ดิน 6 ไร่ๆ ละ 400-1,000 บาท หน้าแล้งทุกปีจะร่วมกับสามีทำสวนผักซึ่งเป็นพืชระยะสั้นไว้ริมคลองเพื่อใช้รับประทานในครอบครัว และนำไปขายหรือไปแลกกับเพื่อนบ้าน พอมีรายได้เลี้ยงลูกอีก 3 คน แต่มาปีนี้ลำบากมาก เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ผักที่ปลูกทั้งผักกวางตุ้ง ผักชี ผักกาด คะน้า ไม่ยอมงอก หรือหากงอกออกขึ้นมาแค่ต้นเล็กๆ ก็จะแห้งเหี่ยวเฉาตาย เนื่องจากไม่มีน้ำมารดเพียงพอ ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้ขาดทุนยับเยิน
ส่วนนาข้าวได้ว่าจ้างรถไถนามาไถเพื่อเตรียมดินไว้เตรียมหว่านข้าวทำนาถึง 2 ครั้งแล้ว หวังว่าหากฝนตกลงมาจะหว่านข้าวทำนาปีทันที แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ไม่มีฝนแม้แต่เม็ดเดียวจึงไม่กล้าหว่านข้าวลงไป เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เตรียมไว้ปลูกในปีนี้เพียงพอสำหรับการทำนารอบเดียวเท่านั้น หากหว่านไปไม่มีฝนตกลงมาจะทำให้พันธุ์ข้าวที่มีอยู่เสียหาย ไม่มีเมล็ดพันธุ์มาหว่านใหม่อีกรอบ แต่หากต้องรอนานเกินกว่า 1 เดือน เมล็ดพันธุ์ที่มีอยู่ก็จะไม่งอก ซึ่งตอนนี้ทำได้แค่ภาวนาว่า 1 เดือนจากนี้ไปขอให้ฝนตกลงมาจะได้มีน้ำทำนา แต่หากไม่มีฝนตกอีกก็ไม่มีทางเลือกเพราะจะเลยฤดูกาลทำนาแล้ว จำต้องเสี่ยงหว่านข้าวทำนาแล้วรอความหวังจากฟ้าฝนเท่านั้น
“อย่างไรก็ตาม ปีนี้คงไม่คาดหวังกับผลผลิตข้าวเหมือนที่ผ่านมาแล้ว เพราะการหว่านข้าวทำนาช้ากว่าทุกปี ผลผลิตที่ได้จะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยแน่นอน แต่ยังดีหากได้ผลพอให้มีข้าวไว้กินในปีหน้า จึงอยากให้หน่วยงานรัฐช่วยหาพันธุ์ข้าวมาแจกจ่ายเกษตรกร และเร่งทำฝนหลวงเพื่อให้มีฝนตกลงมาให้เร็วที่สุด เพื่อเกษตรกรจะได้มีความหวังลงมือทำนาทำไร่ หาเงินมาใช้หนี้สินที่มีอยู่ซึ่งนับวันจะพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ” นางสนับกล่าวในตอนท้าย