ศูนย์ข่าวศรีราชา - บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในเขต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กำหนดแนวเส้นวางท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวชลบุรี-สระบุรี ส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย
วันนี้ (8 ก.ค.) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างเป็นทางการ โครงการวางท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลว จากคลังเขาบ่อยา จ.ชลบุรี ไปคลังเสาไห้ จ. สระบุรี ในเขต ต.ทุ่งสุขลา และ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทั้ง 2 ตำบลเข้าร่วมจำนวนมาก
นายสุรชัย ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้อำนวยการโครงการเพิ่มขีดความสามารถการนำเข้า การจ่าย และระบบขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการพลังงานมีเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคครัวเรือน ขนส่ง และอุตสาหกรรม จึงจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับความต้องการนำส่งที่คาดว่าจะสูงขึ้น โดยจำเป็นต้องมีการลงทุนในระยะยาว ทาง ปตท.จึงมีโครงการก่อสร้างท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลว ขนาด 18 นิ้ว จากคลังก๊าซเขาบ่อยา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปถึง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นคลังศูนย์กลางขนส่งไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองรับปริมาณความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้นของประเทศ พร้อมทั้งรองรับปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นของคลังก๊าซเขาบ่อยา ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง LPG ทั้งในด้านการบริหารจัดการต้นทุน และความปลอดภัย
ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างการศึกษาเส้นทางเลือกที่มีศักยภาพ และพื้นที่ ต.ทุ่งสุขลา ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเลือกที่ ปตท.เห็นว่า เป็นพื้นที่เหมาะสมตามแนวทางใช้ประโยชน์ที่ดินที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชน และสังคมน้อยที่สุด ซึ่งการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบเชิงสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ รวมถึงความคิดเห็น และทัศนคติของประชาชน
น.ส.รัชดา ศรีราสำราญ หัวหน้าหน่วยโครงการท่อส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวชลบุรี-สระบุรี กล่าวว่า โครงการก่อสร้างท่อก๊าซปิโตรเลียมที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นผลมาจากประเทศไทยมีการใช้รถขนส่งก๊าซต่อวันละหลายร้อยคันในการกระจายก๊าซออกทุกพื้นที่ จึงมองว่าระบบขนส่งอันตราย และได้หาวิธีการปรับเปลี่ยนทำการขนส่งแบบท่อ ซึ่งประเทศจะได้มีการประหยัดพลังงาน และค่าขนส่งจากการวิธีการขนส่งประเภทอื่นๆ ซึ่งหากมีขนส่งผ่านมาจะทำให้ประหยัดที่สุด สามารถขนส่งได้ทีละมากๆ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาถนน และรางรถไฟ มีระบบควบคุมความปลอดภัยสูง ลดความผิดพลาดจากมนุษย์ ขนส่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัจจัยเรื่องสภาพจราจร สภาพอากาศ และสภาพของมนุษย์ ไม่สามารถขนส่งสินค้าถึงมือลูกค้ารายย่อยได้โดยตรง
โครงการวางแนวท่อดังกล่าวจะผ่าน 8 จังหวัด 5 อำเภอ 29 ตำบล ระยะทาง 250 กิโลเมตร ประกอบด้วย 1.จ.ชลบุรี อ.ศรีราชา บ้านบึง บ่อทอง เกาะจันทร์ พนัสนิคม 2.จ.ฉะเชิงเทรา อ.บ้านโพธิ์ แปลงยาว บางคล้า คลองเขื่อน เมือง บางน้ำเปรี้ยว 3.จ.สมุทรปราการ อ.บางบ่อ 4.กรุงเทพฯ เขตลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี คลองสามวา 5.จ.ปทุมธานี อ.ลำลูกกา ธัญบุรี หนองเสือ 6.จ.นครนายก อ.องครักษ์ บ้านนา 7.จ.พระนครศรีอยุธยา อ.วังน้อย ภาชี อุทัย 8.จ.สระบุรี อ.วิหารแดง หนองแค หนองแซง เมือง เสาไห้
งบประมาณการลงทุนโครงการไม่รวมค่าที่ดินประมาณ 8,000 ล้านบาท เริ่มทำมวลชนมาตั้งแต่ ปี 2557 ซึ่งหลังจากรับฟังความคิดเห็นแล้วจึงจะทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์โครงการ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2561 แล้วเสร็จภายในปี 2562
ด้าน นายชัยวัฒน์ สังข์รุ่ง ชาวบ้านแนวท่อก๊าซ เผยว่า ดูจากโครงการแล้วก็เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องมีการวางท่อก๊าซน่าจะมีความปลอดภัยสูงกว่าทางรถยนต์ แต่ต้องการให้ทาง ปตท.แจ้งให้ประชาชนรับรู้ถึงแนวท่อ หากเกิดการรั่วไหลจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง จะได้มีการวางแผน หรือเตรียมพร้อมที่จะรับสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตาม อยากให้ทาง ปตท. คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของประชาชนตามแนวท่อก๊าซหลัก รวมถึงผลกระทบในระหว่างการดำเนินการให้ส่งผลถึงประชาชนให้น้อยที่สุด